ตอนที่ 17 เซอร์ไพรส์
ลิต้าเจน เดอะ ซีรีส์ 1 หลงทางรักนครมายา
Image by Claudio_Scott from Pixabay
ตอนก่อนหน้าและตอนถัดไปรวมอยู่ในนี้ รวมทุกตอน
กวินทร์จอดรถลงที่หน้าอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง
“ถึงแล้วละ เราเข้าไปข้างในกันก่อน” เขาพูดต่อ
กวินทร์ช่วยฉัน ยกกระเป๋าเข้าไปในอาคาร ท่าทีของเขาดูเงียบขรึม ทำเอาฉันใจไม่ดี ก่อนที่เขาจะเปิดประตู เขาเอื้อมมือมาจับมือฉันไว้ แล้วพูดว่า
“ไม่ต้องตกใจนะ แล้วฉันจะเล่าให้ฟัง”
ทันทีที่เขาเปิดประตูออก ฉันต้องเจอกับภาพที่ทำให้ฉัน แทบกลั้นหายใจ ห้องที่เต็มไปด้วยข้าวของแตกกระจาย สภาพเหมือนมีโจรบุกบ้านเข้ามาทำลายข้าวของยังไงยังงั้น
“กวินทร์มันเกิดอะไรขึ้น” ฉันอุทาน
ฉันเดินสำรวจไปในห้อง พบเศษกระดาษมากมายที่ถูกฉีกขาด ฉันหยิบบางเศษเสี้ยวขึ้นมาดู พบว่ามันเป็นภาพถ่ายของกวินทร์ กับใครบางคนที่ถูกฉีกขาดหายไป ฉันหยิบเศษที่เหลือขึ้นมาประกบ พบว่าเป็นภาพของผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นคนเอเชีย หน้าตาผิวพรรณดูดี
ฉันหันไปมองกวินทร์หวังว่าเขาจะให้คำอธิบาย กวินทร์ยังคงได้แต่นิ่งเงียบ ฉันหยิบกระดาษที่เท้าขึ้นมา คลี่ออก มันเป็นการ์ดที่เขียนว่า
…
ถึงมาลิสา
สุขสันต์วันเกิดนะครับ
จากผู้ชายที่รักคุณมาก กวินทร์
ลงวันที่เมื่อไม่นานมานี้
…
ฉันทรุดลงกับพื้น และเริ่มสะอื้นไห้
“นี่มันอะไรกัน” ฉันกรีดร้องออกมาไม่เป็นภาษา
กวินทร์ก้าวเข้ามาทรุดตัวโอบกอดฉันจากด้านหลัง ฉันดิ้นรน และทุบตีเขา พร้อมกับร้องไห้อย่างหนัก ไม่คิดว่านี่คือการต้อนรับการมาของฉัน
“ฟังฉันก่อน ลิต้า” กวินทร์ขอร้อง พร้อมทั้งกอดรัดฉันที่กำลังต่อสู้อยู่ในวงแขนของเขาอย่างสุดกำลัง
“ฉันผิดไปแล้ว ฟังฉันอธิบายก่อนได้ไหม”
กวินทร์พูดพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมา ฉันต่อสู้จนหมดแรง หอบเบา ๆ พร้อมสะอื้นอยู่ในลำคอ กวินทร์คลายวงแขนที่รัดฉันแน่น ถอนหายใจอย่างอ่อนล้า
“ฉันขอโทษลิต้า ฉันโกหกเธอ เรื่องที่ว่า ฉันกับมาลิสานั้นตัดขาดจากกันแล้ว” เขากล่าว ฉันได้แต่สะอึกสะอื้น
“ทำไม” ฉันร้องถาม
“ตอนฉันเจอเธออีกครั้งนั้น ฉันห้ามใจตัวเองไม่ได้ ทั้ง ๆที่รู้อยู่เต็มอกว่าฉันยังมี มาลิสาอยู่ทั้งคน ฉันไม่กล้าบอกความจริง กลัวว่าเธอจะไม่กลับมาหาฉัน”
“เธอเลยโกหกฉันซินะ” ฉันโวยวายพร้อมทั้งหันไป ทุบหน้าอกเขาเข้าให้อย่างจัง
“ทำฉันเลย ฉันมันสมควรโดนแล้ว” ได้ยินดังนั้น ทำเอาฉันกลับนิ่งเสีย
“พอฉันกลับมา ตั้งใจจะจัดการเรื่องระหว่างฉันและมาลิสาให้เสร็จสิ้น เพราะอย่างไรเสีย ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับมาลิสา มันทำท่าไม่ดีมานานแล้ว” กวินทร์นิ่งอึ้ง ไปพักใหญ่ ก่อนจะกล่าวต่อไปว่า
“แต่มันไม่ง่ายอย่างที่ฉันคิด เขาเสียใจมาก ขู่จะเลิกเรียนหนังสือ และ ฆ่าตัวตาย ถ้าฉันทิ้งเขาไป เธอเข้าใจไหม ฉันไม่อยากเป็นต้นเหตุทำลายชีวิตคนทั้งคน” กวินทร์พูดพร้อมทั้งเอามือกุมขมับ
“ฉันเลยได้แต่รับปากเขาว่าจะเลิกกับเธอ เพื่อประวิงเวลา ฉันมืดแปดด้าน คิดไม่ออกว่าต้องทำอย่างไร จนเมื่อคืนนี้เอง ฉันบอกมาลิสาว่าเธอกำลังเดินทางมา”
นัยตาฉันเบิกกว้าง จดจ่อทุกถ้อยคำที่กวินทร์กล่าว
“ทำเอาเราทะเลาะกันขั้นรุนแรง เขาขว้างปาข้าวของ และมันก็เป็นดั่งสภาพที่เธอเห็นนี่แหละ”
กวินทร์ถลกแขนเสื้อขึ้น เผยให้เห็นร่องรอยของการถูกทำร้าย ฉันตกใจ ท่าทีโกรธเกรี้ยว เปลี่ยนเป็นความเห็นใจ
“แล้วมาลิสา เขาไปอยู่ที่ไหน ตอนนี้” ฉันถาม
“ได้ข่าวจากเพื่อนว่าเขาไปอาศัยอยู่กับเพื่อนสาวคนหนึ่ง ฉันได้แต่หวังว่าเขาจะไม่ทำอะไรโง่ ๆ”
ฉันรู้สึกสับสน และไม่รู้ว่าตัวเองควรรู้สึกอย่างไรดี โกรธที่กวินทร์โกหกฉัน เสียใจที่ตลอดเวลาที่ฉันเฝ้ารัก เขามีคนเคียงหมอน นอนเคียงข้างทุกวันคืน เห็นใจมาลิสาที่ไม่มีส่วนผิดชอบในเรื่องนี้ หรือจะหยิ่งผยองในความเป็นผู้ชนะ ที่กวินทร์เขาเลือกฉัน
เหตุการณ์ในวันนั้น ทำให้ฉันรู้สึกไม่นอนใจในความสัมพันธ์ของเรา ฉันไม่รู้ว่าหากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บ้านเกิดเมืองนอนของฉันแล้ว ฉันจะมีปฏิกิริยาที่ต่างออกไปหรือไม่
ในเวลานั้นฉันให้อภัยกวินทร์ เพราะความที่รักเขามาก และไม่อยากถูกทอดทิ้งให้เดียวดาย ในประเทศที่ฉันแทบไม่รู้จัก ผู้คนแปลกหน้า พูดภาษาที่ยากจะเข้าใจ ไม่มีกวินทร์แล้วฉันจะทำอะไรได้ ชีวิตของฉันขึ้นอยู่กับเขาแล้ว
เราช่วยกันเก็บกวาด สภาพปรักหักพัง และฉันก็เผลอหลับไป ด้วยความอ่อนเพลียจากการเดินทาง และ เรื่องราวสะเทือนขวัญ
วันรุ่งขึ้น ฉันตื่นขึ้นด้วยขวัญผวาจากฝันร้าย มองไปที่เตียง กวินทร์ไม่อยู่แล้ว ฉันตกใจเสมือนว่าถูกทิ้งให้อยู่เดียวดาย น้ำตาใส ๆ ไหลเอ่อออกมา แต่ยังไม่ทันได้ร้อง ฉันก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
ตรื๊ด ๆ ๆ
“สวัสดีครับ มาลิสาเหรอ เธออยู่ที่ไหน”
“ครับ ฉันจะลงไป”
กวินทร์เดินมาหาฉันที่เตียงด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
“มาลิสา เขาอยู่ข้างล่าง เขามีเรื่องจะคุยด้วย เดี๋ยวฉันจะกลับมา ไม่นานนักหรอก”
ฉันไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่พยักหน้า พอกวินทร์ เดินลับประตูไป ฉันรีบวิ่งไปที่หน้าต่าง และมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ฉันเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังยืนอยู่พิงรถคันเล็ก ๆ สีแดงที่ด้านล่าง เธอคงเป็นมาลิสา ฉันไม่สามารถเห็นหน้าตาเธอได้ เพราะเนื่องด้วย เธอสวมเสื้อกันหนาวตัวโต ผ้าพันคอ และหมวกไหมพรม อากาศข้างนอกคงจะหนาวมาก
ชั่วอึดใจต่อมา กวินทร์เดินออกมา พวกเขายืนพูดคุยกัน โดยที่ฉันไม่สามารถได้ยินบทสนทนาได้ ได้แต่คาดเดาไปต่าง ๆ นา ๆ แล้วซักพักพวกเขาก็โผเข้ากอดกัน ฉันที่แอบมองอยู่นั้น รู้สึกเจ็บเข้าไปในหัวใจมันหมายความว่าอย่างไร กวินทร์เดินกลับเข้ามาในอาคารแล้ว ฉันรีบรุดกลับไปที่เตียง ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ประตูเปิดออก กวินทร์มีสีหน้าไม่สู้ดี
“เป็นอย่างไรบ้าง” ฉันถามด้วยความอยากรู้
“ไม่มีอะไรมากหรอกครับ เขาแค่ยังทำใจไม่ได้” กวินทร์ตอบเลี่ยง ๆ
เขาไม่ได้พูดอะไรมาก และฉันไม่กล้าซักต่อ
“มันผ่านไปแล้ว ลิต้า เธอไม่ต้องกลัว”
กวินทร์สวมกอดฉัน
“ฉันวางแผนการท่องเที่ยวของเราไว้หมดแล้ว เธอต้องชอบแน่ ๆ”
กวินทร์พยายามทำตัวสดใสอีกครั้ง
ฉันบอกตัวเองว่ามันผ่านไปแล้ว กวินทร์อยู่ที่นี่กับฉัน ไม่มีอะไรแล้วที่ฉันต้องกลัว มันเป็นเพียงคำปลอบประโลม หลอกตัวเองเท่านั้นเอง ฉันแอบประหวั่นอยู่ลึก ๆ มีความสุขอยู่บนความหวาดผวา