ตอนที่ 19 หิมะ (18+)
ลิต้าเจน เดอะ ซีรีส์ 1 หลงทางรักนครมายา
Image by Free-Photos from Pixabay
ตอนก่อนหน้าและตอนถัดไปรวมอยู่ในนี้ รวมทุกตอน
เช้านี้ กวินทร์ช่วยฉันจัดแจงยกกระเป๋า ที่เพิ่งยกขึ้นไปที่ห้องของเขาลงมาที่รถ เราตระเตรียมข้าวของ อาหารการกิน ขึ้นรถกวินทร์ กวินทร์บอกว่าพวกเรากำลังจะเดินทางไกล ถามเท่าไหร่ ก็ไม่ยอมบอกว่าไปที่ไหน เขาอยากให้เป็นเซอร์ไพรส์ เอาเถอะ ถึงเขาบอกฉันก็คงยังไม่รู้จักอยู่ดี เพราะฉันไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับประเทศนนี้เลยก็ว่าได้ ที่ไหนน่าเที่ยว ของขึ้นชื่อคืออะไร ฉันก็ไม่รู้ เพราะฉันนั้นเชื่อใจ และวางใจกวินทร์เป็นที่สุด เลยปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเขาทั้งหมด เขาเป็นคนรอบรู้และช่างสังเกตุ โดยเฉพาะเรื่องทิศทางแล้วละก็ ลองบอกที่อยู่ให้เขาละก็ เขาสามารถพาฉันไปถึงที่หมายโดยไม่หลงเลยซักนิด ซึ่งต่างจากฉันมาก แค่เดินในห้างสรรพสินค้าที่เดินอยู่เป็นประจำ ยังทำเอาฉันงุงงงแทบแย่
เมื่อเสร็จสิ้นฉันเดินออกมารอที่รถ สูดอากาศเข้าเต็มปอด ซุกมือเข้ากระเป๋าเสื้อ พร้อมทั้งห่อไหล่เข้าหาตัว เพราะความหนาวเย็น กวินทร์เดินตามฉันมาติด ๆ แล้วสวมกอดฉันจากด้านหลัง
“หนาวใช่ไหม ลิต้า”
ฉันหันไปหาเขาภายใต้วงแขนที่อบอุ่นนั้น แล้วซุกตัวลงบนแผ่นอกที่ใหญ่โต และ แข็งแรง
“ที่ที่เราจะไป ยิ่งหนาวกว่านี้อีกนะ”
“ฉันต้องตายแน่ ๆ เลย แค่นี้ก็แทบแย่แล้ว” ฉันเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองกวินทร์ ด้วยดวงตาเบิกโพลง
“เดี๋ยวฉันจะให้ความอบอุ่นเธอเอง” เขาพูดพร้อมกับใช้จมูกของเขาไซร์ไปตามใบหน้าของฉัน ฉันสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากลมหายใจของเขา มันวูบร้อนแผ่วเบา ทำเอาฉันลืมตัวไปชั่วขณะ ถึงกับส่งเสียงครางตอบเบา ๆ
กวินทร์เอื้อมมือไปเปิดประตูที่อยู่ด้านหลังของฉัน โดยไม่ละใบหน้าของเขาจากฉัน และค่อย ๆดันฉันเข้าไปในที่นั่งข้างคนขับ ฉันเคลื่อนไหวตามแต่โดยดี เขาผลักฉันลงอย่างแผ่วเบาบนที่นั่ง แล้วปิดประตูตาม เดินไปนั่งตรงด้านข้างตรงที่นั่งคนขับ ความรู้สึกวูบร้อนจากปลายจมูกของเขายังแผ่ซ่านอยู่ในตัวฉัน การเดินทางนี้คงไม่หนาวซักเท่าไหร่นัก ฉันนึกพร้อมกับภาพจินตนาการภาพเปลือยเปล่าอันกำยำของกวินทร์
พวกเราออกเดินทาง ฉันชื่นชมไปกับทัศนียภาพที่แปลกตา ดูออกจะเหมือนทะเลทราย มีต้นไม้ขึ้นรำไร ๆ เราหยุดพักข้างทางนำอาหารง่าย ๆ ที่เตรียมไว้ออกมาทาน และเมื่อทานเสร็จก็เดินทางกันต่อ พอถึงเวลาพลบค่ำ กวินทร์จอดรถเข้าที่พัก
“ถึงแล้วเหรอกวินทร์ ที่นี่ที่ไหนกวินทร์” ฉันถามเนื่องด้วยรอบทางมืดไปหมดแล้ว
“ยังหรอก คืนนี้นอนเอาแรงก่อน พรุ่งนี้น่ะ เธอถึงจะรู้” กวินทร์ทำท่าทีมีเลศนัย ไม่ยอมบอก
พวกเรานอนหลับกันไปด้วยความอ่อนแรงจากการเดินทาง
รุ่งเช้าเราออกเดินทางกันแต่เช้า รอบตัว วิวทิวทัศน์เต็มไปด้วยหิมะ ฉันตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก จินตนาการถึงหิมะมานาน เพิ่งเคยเห็นก็ครั้งแรก ฉันแทบรอไม่ไหวที่จะได้สัมผัสหิมะ มันจะนุ่มเหมือนปุยนุ่น หรือเปล่านะ หรือว่าเหมือนน้ำแข็งใสที่ราดน้ำแดง ฉันต้องทำตุ๊กตาหิมะเหมือนในหนังให้ได้
เมื่อขับมาต่ออีกไม่นาน เราก็มาถึงสถานที่กวินทร์อุปเอาไว้นักหนา
“แกรนแคนยอน” ฉันอ่านป้ายทางเข้าเสียงดัง
“กวินทร์พาฉันมา แกรนแคนยอนเหรอ” ฉันอุทานอย่างดีใจ ได้ยินมานานหนักหนา เคยเห็นก็แต่ในสวนสนุก ได้มาเห็นของจริงก็คราวนี้
เมื่อกวินทร์จอดรถ ฉันรีบกระวีกระวาด ออกไปจากรถไปสัมผัสสภาพภายนอก ทันทีที่ลมหนาวปะทะ ทำเอาฉันสะท้านไปทั้งตัว แต่นั่นไม่ทำให้ฉันหยุดยั้งความตื่นเต้นไปได้
“ว้าว มันสวยมหัศจรรย์มาก ๆ เลย” ฉันอุทานเมื่อมองออกไปเห็นหน้าผาสูงชัน สลับซับซ้อน ชวนให้หวาดเสียว ทุกพื้นที่ หน้าผา ต้นไม้ ใบหญ้า ถูกปกครุมไปด้วยหิมะสีขาว ดั่งกับเมืองในเทพนิยาย ฉันก้มลง ถอดถุงมือออก แล้วสัมผัสหิมะที่พื้น
“โอ้ย มันเย็นมากเลย กวินทร์”
กวินทร์ได้แต่หัวเราะ ชอบใจ “ก็มันน้ำแข็งนะลิต้า ก็ต้องเย็นซิ”
กวินทร์พูดไม่ทันขาดขำ ฉันคว้าหิมะในมือเข้าปากทันที
“ลิต้า เธอทำอะไร” กวินทร์ร้องด้วยความตกใจ
“ฉันก็ลองชิมไง รสชาติคล้าย ๆ น้ำแข็งใส ที่ยังไม่ใส่น้ำหวาน กวินทร์ลองหน่อยไหม” ฉันพูดพร้อมกับยื่นมือที่เต็มไปด้วยหิมะให้กวินทร์
“ฉันไม่เอาหรอก แล้วเธอไม่เย็นมือเหรอ”
ฉันสะบัดหิมะออกจากมือ “หนาว ๆ” ฉันตะโกนพร้อมกับกระโดดโลดเต้นไปมา
กวินทร์เข้ามาคว้ามือของฉันไว้ แล้วเป่าลมหายใจร้อน ๆ บนนิ้วของฉัน นิ้วของฉันสัมผัสริมฝีปากที่อ่อนนุ่มของเขา กวินทร์ ค่อย ๆ ใช้ลิ้นสัมผัสปลายนิ้วของฉันอย่างแผ่วเบา และเย้ายวน ดั่งมีมนต์สะกด ฉันรู้สึกวาบหวิวไปถึงขั้วหัวใจ
“ดีขึ้นรึยัง ลิต้า” กวินทร์เงยหน้าขึ้นถาม เผยให้เห็นแววตาซุกซนของเขา
“ขอบใจจ๊ะ” ฉันยิ้มอย่างเขินอาย พร้อมทั้งชักมือกลับ และสวมถุงมือไว้ตามเดิม
เราถ่ายภาพกับบรรยากาศท่ามกลางสายลมที่พัดพาที่หนาวเย็น
“ลิต้า กลับขึ้นรถเถอะ มันหนาวมากเดี๋ยวเธอจะไม่สบายเอา”
ฉันพยักหน้า แล้วเราก็วิ่งตรงปี่ไปที่รถทันที
เมื่อเข้าไปในรถได้ กวินทร์เปิดเครื่องทำความร้อนในรถ ฉันนั่งตัวสั่นในที่นั่งข้างคนขับนั่นเอง
“ลิต้า มานั่งบนตักฉันไหม เธอจะได้อุ่นขึ้น” กวินทร์พูดพร้อมกับขยับที่นั่งฝั่งคนขับไปข้างหลังเพื่อให้มีพื้นที่กว้างขึ้น
ฉันพยักหน้าแล้วปีนข้ามเกียร์ของรถไปนั่งบนตัก ระหว่างขาของกวินทร์ กวินทร์โอบกอดฉันจากด้านหลัง และพยายามใช้สองมือบีบนวดฉันไปมา เพื่อเพิ่มความอบอุ่น
“เธอคงไม่เคยเจอหนาว ๆ แบบนี้มาก่อน”
“ไปเชียงใหม่ก็ว่าหนาวแล้ว ที่นี่ยังกับอยู่ในช่องแช่แข็ง” ฉันพูดจาเปรียบเปรย
“เดี๋ยวฉันช่วยให้เธอหายหนาวเอง” กวินทร์พูดด้วยน้ำเสียงพิเรน เหมือนมีความหมายบางอย่างซ่อนอยู่
แล้วในทันใดนั้น เขาเริ่มใช้จมูกของเขาไซร์ที่ซอกหูของฉัน ลามลงมาที่คอ พร้อมกับมือที่ลูบไล้ต้นขาของฉัน ความหนาวภายนอกกลับแปรเปลี่ยนเป็นไฟร้อนระอุจากภายใน ฉันหลับตาลง รับรู้ทุกสัมผัสจากผิวกายของเขา เขาค่อย ๆขยับมือของเขา และซุกเข้าที่ใต้เสื้อของฉัน ในขณะที่ยังเพียรจูบหลังคอของฉันอย่างเร้าร้อน ทันทีที่มือที่เย็นเฉียบของเขา สัมผัสผิวกายของฉันที่เปือยเปล่า ฉันสะดุ้งโหยงไปด้วยความตื่นเต้น เผลอส่งเสียงครางเบา ๆออกมาในลำคอ เมื่อมือของเขาสัมผัสปลายยอดอกของฉัน ฉันขยุ้มหน้าขาของเขาอย่างเต็มแรง ในนาทีนั้นฉันลืมไปสิ้นว่าเรากำลังอยู่ในรถ ที่โล่งแจ้ง และอาจมีคนมาเห็นเข้าเมื่อไหร่ก็เป็นได้
สัมผัสที่ลุ่มร้อน และเร่งเล้าของกวินทร์ ทำเอาฉันลืมสิ้นซึ่งความกังวล ลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้น เผลอตัว ปล่อยใจไปตามการเล้าโลม ด้วยความช่ำชองและลีลาที่เจนจัดของกวินทร์ ทำเอาพื้นที่เล็ก ๆ ในที่นั่งคนขับ ขยับโยกไปตามจังหวะ ปลดปล่อยอณูแห่งรักแผ่ขยายไปทุกแห่งหน ดั่งเช่นความงามของแกรนแคนยอนที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนไปในทุกหย่อมหญ้า วินาทีนี้ โลกของฉันหมุนรอบกวินทร์เท่านั้น