ตอนที่ 26 แหวนแห่งรักนิรันดร์
ลิต้าเจน เดอะ ซีรีส์ 1 หลงทางรักนครมายา
ตอนก่อนหน้าและตอนถัดไปรวมอยู่ในนี้ รวมทุกตอน
หลังจากนั้นไม่นาน ก็ถึงวันที่ฉันจะได้พบกวินทร์อีกครั้ง ฉันไม่รู้เลยว่าฉันพร้อมหรือไม่กับคำตอบ สำหรับคำถามมากมายในใจของฉัน
กวินทร์อาสาขับรถมารับ หลังเลิกงานวันหนึ่ง ฉันรีบกลับมาที่คอนโด ที่ฉันซื้อด้วยน้ำพักน้ำแรงของการทำงาน ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานเท่าใด อาบน้ำแต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมพร้อมรอกวินทร์ที่กำลังใกล้เข้ามา ฉันมีความรู้สึกตื่นเต้น ปนความประหม่า
เมื่อรถของกวินทร์มาจอดเทียบหน้าคอนโด ฉันก้าวขึ้นไปในรถของเขา พร้อมกับเผลอยิ้มด้วยความชื่นใจที่ได้เห็นใบหน้าของเขา แอบลืมความเจ็บช้ำไปชั่วขณะ
“ลิต้า ฉันดีใจที่ได้เจอเธอ” กวินทร์กล่าว “วันนี้ทำงานหนักไหม” เขาถามด้วยสายตาแห่งความห่วงใย
“ก็หนักเหมือนเคย แต่ฉันเริ่มชินแล้วหล่ะ” ฉันตอบแบบขอไปที
“เธอละ กวินทร์ได้งานหรือยัง”
“ฉันก็ส่งใบสมัครไปหลายที่ และแม่ก็ช่วยฝากให้อีกทางหนึ่ง”
“แล้วสายทิพย์ไม่ว่าหรือ มาหาฉันแบบนี้”
“เขากลับไปทำงานที่ต่างจังหวัดแล้ว และฉันก็ไม่ต้องบอกเขาทุกเรื่องก็ได้” กวินทร์พูดบ่ายเบี่ยง
เมื่อเห็นว่ากวินทร์ไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ ฉันเองก็ไม่อยากซักไซร์
“แล้ววันนี้เธอจะพาฉันไปที่ไหนเหรอ” ฉันเปลี่ยนบทสนทนา
“ที่ที่เธอก็รู้จักดี” กวินทร์หันมามองที่ฉัน ด้วยสายตาอ่อนหวานพร้อมทั้งรอยยิ้มที่มุมปาก
เขาขับรถไปเรื่อย ในขณะที่พระอาทิตย์เริ่มหย่อยคล้อยลง ส่องแสงสีทองอร่ามไปทั่วท้องฟ้า ช่างสวยงามเหลือเกิน ฉันนั่งถอดถอนใจนึกถึงพระอาทิตย์อัสดงริมชายหาดที่เมือง ซานตาโมนิก้า เสียไม่ได้
คำพูดหวานหูของกวินทร์ในวันนั้น ยังคงดังก้องอยู่ในจิตใจ
“ฉันเสียเธอไปครั้งหนึ่งแล้ว ฉันจะไม่ยอมเสียเธอไปอีกเป็นครั้งที่สอง”
ฉันยังจำสัมผัสของรอยจูบที่ช่างดูดดื่ม และ อ่อนหวาน บนหน้าชายหาดนั้นได้ดี ฉันเอื้อมมือมาสัมผัสริมฝีปากของฉันอย่างแผ่วเบา รสลิ้นอันอ่อนละมุมของกวินทร์ยังตราตรึงติดอยู่บนริมฝีปากนี้ไม่เสื่อมคลาย
ขณที่กำลังเหม่อลอยไปกับความหลัง กวินทร์เอ่ยขึ้นตัดกับความเงียบ
“กำลังคิดอะไรอยู่เหรอ ลิต้า”
ฉันสะดุ้งออกจากภวังของความคิดกลับคืนสู่โลกของความเป็นจริงที่ว่า วันนี้ริมฝีปากอันอ่อนนุ่มของผู้ชายที่ฉันรักที่อยู่เบื้องหน้า ได้มอบจุมพิตเช่นเดียวกันนี้ ให้กับศัตรูหัวใจตัวฉกาจ ยัยสายทิพย์ เพื่อนเก่า มิตรจอมปลอม
“ฉันกำลังคิดถึงที่ที่เราเคยไปด้วยกัน”
“ถ้าอย่างนั้น เธอคงจำที่แห่งนี้ได้” กวินทร์พูดพร้อมกับเลี้ยวรถเข้าไปยังโรงแรมที่ดูโอ่อ่าหรูหราแห่งหนึ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา
“จำได้ซิ ฉันจำได้ดี”
ภาพเหตุการณ์วันนั้นย้อนกลับมาให้ฉันหวนคิดถึง
(เหตุการณ์ก่อนการลลิตาเดินทางไปสหรัฐอเมริกา)
“กวินทร์ เราจะไปที่ไหนกัน” ฉันถามในขณะที่เขากำลังขับรถไปข้างหน้าด้วยสีหน้ากลุ้มกริ่ม
“เดี๋ยวเธอก็รู้ ลิต้า” กวินทร์อุบเงียบไม่บอก
ชั่วเวลาหนึ่งต่อมา เรามาถึงโรงแรม ที่ดูโอ่อ่าหรูหราแห่งหนึ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา
“ฉันพาเธอมาฉลอง ความรักของเรา” กวินทร์เฉลยในที่สุด “เธอไม่รู้หรอกว่า ฉันดีใจมากแค่ไหน ที่ได้หัวใจของเธอมาครอบครองอีกครั้ง”
“ขอบคุณมาก กวินทร์ หัวใจของฉันไม่เคยเป็นของใครเลย” ฉันตอบอย่างสัตย์จริง
“มาเถอะ ฉันยังมีเซอร์ไพร์สอีก” กวินทร์ออกมาจากรถแล้วเดินอ้อมมาเปิดประตูให้ฉัน
ฉันในชุดผ้าชีฟองสีขาว รองเท้าคัชชูที่เข้ากัน ใบหน้าตบแต่งอย่างอ่อนหวาน ก้าวออกมาจากรถ กวินทร์ยื่นมือมาให้ฉัน ฉันวางมือของฉันบนมือของเขาเบาๆ และลุกขึ้นยืนเคียงข้าง ผู้ชายที่ฉันรัก ที่วันนี้เขาดูโก้เก๋ด้วยเสื้อเชิ๊ตขาว กางเกงสแลคและเสื้อสูทสีเทาที่เข้ากันพร้อมทั้งรองเท้าหนังขัดมันกริบ
เราเดินเข้าไปยังห้องโถงของโรงแรมที่สวยสง่า รู้สึกราวกับเจ้าหญิงและเจ้าชายในเทพนิยายของฉันเอง พนักงานโรงแรมเปิดประตูพร้อมกับโค้งคำนับด้วยท่าทีเป็นมิตร กลิ่นหอมของน้ำหอมปรับอากาศชั้นดี ชวนให้เพลินฝัน
กวินทร์เดินพาฉันไปยังลิฟท์โดยสารอย่างคนที่คุ้นเคย ลิฟท์เคลื่อนตัวขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ทันทีที่ลิฟท์เปิดออก ภาพเบื้องหน้านั้น ทำเอาฉันตระลึง ถึงกับเผลอเผยอปากกว้าง วิวแม่น้ำเจ้าพระยา ประดับประดาด้วยแสงไฟจากบ้านเรือน และ เรือน้อยใหญ่ ผู้คนดูตัวเล็กนิดเดียวเมื่อมองดูจากความสูงในระดับนี้
“มันสวยมากเลย” ฉันหันไปมองกวินทร์ด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข “ขอบคุณมากนะ”
กวินทร์ยิ้มรับ และพาฉันมานั่งที่โต๊ะริมหน้าต่างที่สามารถมองเห็นวิวที่สวยงามได้อย่างชัดเจน
เขาหันไปสั่งเครื่องดื่ม ชื่อภาษาอังกฤษที่ฉันไม่คุ้นหู แล้วไม่นาน เครื่องดื่มสีหวาน ตบแต่งด้วยเชอรี่สีสวยก็มาอยู่ตรงหน้า พร้อมกับช่อกุหลายสีชมพูแสนหวาน กวินทร์รับเอาดอกไม้นั้นมา และมอบให้ฉัน ฉันถลาเข้ากอดกวินทร์ด้วยความดีใจ เราดื่มด่ำไปกับเครื่องดื่มชั้นดี รสชาติหอมหวานซ่อนเปรี้ยวยังตราตรึงสัมผัสอยู่ที่ปลายลิ้น ความสวยงาม หรูหรา บรรจิตบรรจงอย่าง ไม่มีที่ติของโรงแรมคุณภาพสุภาพบุรุษในชุดทักซิโดบรรจงเรียวนิ้วลงคีย์ของเปียโน พร้อมโยกย้ายศรีษะไปตามเสียงดนตรีที่เขาบรรเลง ช่างสร้างบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก และผ่อนคลาย
ฉันอิงศรีษะซบไหล่ พลางนึกถึงความโชคดีของฉัน ที่มีผู้ชายอันเพรียบพร้อมเคียงข้าง ในเวลานี้ใครจะมีความสุขไปกว่าฉันได้ กวินทร์โอบไหล่ฉันด้วยมือข้างหนึ่ง และ ใช้นิ้วมือของเขา ไร้ไปตามเรียวแขนของฉัน สัมผัสแผ่วเบาที่เต็มไปด้วยพลังรักอันรัญจวน เคลื่อนผ่านปลายนิ้วสู่ทรวงอกข้างซ้ายของฉัน ในเวลานี้โลกของฉันสะกดว่า กวินทร์
“ลิต้า เธออยากไปเดินเล่นด้านนอกไหม สามารถเห็นวิวได้รอบทิศเลยนะ” กวินทร์เอ่ยชวน
“ไปซิ” ฉันตอบพลางยกตัวที่พิงกวินทร์อยู่นั้นขึ้นนั่ง
กวินทร์ไม่รีรอ เขาลุกขึ้นและยื่นมือมาให้ฉันจับ ฉันทำตามแต่โดยดี
อากาศข้างนอกสดชื่น เพราะสายลมที่หอบมาจากแม่น้ำ ผมฉันปลิวสไสวไปตามสายลม กวินทร์บรรจงจัดใช้นิ้วมือของเขาทัดไรผมของฉันไว้ที่ข้างใบหู และลูบไร้ไปตามใบหน้าของฉัน มืออีกข้างเอื้อมมาโอบกอดเอวของฉันเอาไว้ และกระชับให้สนิทแนบแน่นเข้ากับลำตัวที่แข็งแรงของเขา ฉันผ่อนตัวไปตามเสียงดนตรีที่บรรเลงคลอเคล้าไปกับสายลม และใช้มือข้างหนึ่งโอบลำคอของกวินทร์อย่างแผ่วเบา เสียงหัวใจของฉันก้องดังเป็นคำว่ารัก
“ลิต้า เธอยังใส่แหวนแห่งรักนิรันดร์อยู่ไหม”
“แน่นอนที่สุด”
ฉันยกมือซ้ายขึ้นไปในอากาศ และโชว์นิ้วมือที่ว่างเปล่าของฉันต่อหน้ากวินทร์
“ดูนี่ซิ มันสวยงามมากเลย ฉันสวมมันทุกวันเลยนะ นับจากวันที่เธอมอบให้ ในโลกแห่งจินตนาการ”
ฉันมองดูแหวนแห่งรักนิรันดร์ที่สุกสกาวแวววาว บนนิ้วมือที่ว่างเปล่าของฉัน แล้วย้อนนึกไปถึงค่ำมั่นสัญญาที่เรามีให้กันในพิธีแต่งงานแห่งโลกของความฝัน แม้เป็นเพียงจินตนาการฉันก็เป็นสุขเหลือเกิน
กวินทร์ยิ้มกลุ้มกริ่ม และละมือที่สัมผัสใบหน้าของฉันเข้าไปในกระเป๋าข้างกางเกงของเขาและกล่าวว่า “ฉันจะทำให้โลกแห่งความฝันของเธอเป็นจริง”
เขาเผยมือตรงหน้าของฉัน ภายในมือของเขา ปรากฏแหวนวงน้อยที่ประดับด้วยเพชรเม็ดงาม สุกสกาวกว่าดาวดวงใดๆ ฉันยืนตกตะลึงในสิ่งที่ไม่คาดฝัน
“ฉันขอมอบ แหวนแทนใจแห่งรักนิรันดร์ ให้กับเธอ” กวินทร์กล่าวพร้อมกับสวมแหวนวงนั้นที่นิ้วนางข้างซ้ายตำแหน่งเดียวกันบนแหวนแห่งจินตนาการ
เมื่อโลกแห่งความฝันบรรจบโลกแห่งความจริง น้ำตาของฉันเอ่อด้วยความสุขใจเกินกว่าคำใดจะพรรณา ฉันจะรักษาพันธสัญญาของเราเท่าชีวิตฉัน ชีวิตนี้ฉันมีเพียงเพื่อรักเธอเท่านั้นกวินทร์
“เธอรอฉันนะ แล้วฉันจะกลับมา”
…