ตอนที่ 27 ที่เดิมที่ต่างไป
ลิต้าเจน เดอะ ซีรีส์ 1 หลงทางรักนครมายา
Image by Foundry Co from Pixabay
ตอนก่อนหน้าและตอนถัดไปรวมอยู่ในนี้ รวมทุกตอน
“ลิต้า ลงมาจากรถเถอะ” กวินทร์เรียกฉันที่กำลังเหม่อลอยไปในโลกแห่งความทรงจำอันแสนหวาน มารู้ตัวอีกทีก็กวินทร์จอดรถเทียบหน้าทางเข้าโรงแรมเป็นที่เรียบร้อย ฉันเดินตามกวินทร์ไปพร้อมทั้งกวาดตามองไปรอบๆ รำลึกถึงตัวเองในอดีต ในชุดสีขาวที่กำลังเดินเกาะแขนกวินทร์เข้าไปยังโรงแรมอันโก้หรู สีหน้าของฉันในอดีตช่างสดใส และ ไร้เดียงสา ช่างต่างจากฉันในวันนี้ ในชุดเดรสสีดำรัดรูปเผยให้เห็นสัดส่วนและร่องอก กับหัวใจที่ตรมไปด้วยประสบการณ์แห่งความทุกข์ทม
พนักงานเปิดประตูโค้งคำนับดังเช่นคราก่อน บรรยากาศข้างใน มิต่างอะไรกับครั้งนั้น หากแต่ที่ต่างกันไป คือ ฉันและกวินทร์ที่ไม่ได้เป็นคนรักกันดั่งเก่า
กวินทร์พาฉันไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิมดั่งเจตนา ให้ฉันรำลึกภาพความหลัง ต่างกันก็ตรงที่ฉันเลือกนั่งตรงข้ามกับกวินทร์ และมิได้ซุกอิงไออุ่นจากกวินทร์เช่นครานั้น
“ลิต้า ดื่มอะไรดี”
“ฉันขอมากาลิต้าแก้วหนึ่ง ขอบคุณค่ะ” ฉันหันไปสั่งเครื่องดื่มจากพนักงานที่มารอรับรายการ
“ผมขอมาตินี่ที่หนึ่งครับ” กวินทร์สั่งเครื่องดื่มของตัวเอง และพนักงงานก็เดินจากไป
“ฉันไม่รู้เลย ว่าเธอรู้จักเครื่องดื่มพวกนี้ด้วย”
“ฉันโตขึ้นแล้ว ไม่ใช่เด็กๆ แบบที่เธอเคยรู้จักแล้ว”
“จริงซินะ เธอดูสวย และ เซ็กซี่ขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก”
ฉันเพียงแต่ยิ้มที่มุมปาก แต่ไม่ได้ตอบอะไร สักพักพนักงานบริการ นำเครื่องดื่มมาเสริฟ ฉันยกเครื่องดื่มขึ้นจิบและมองออกไปยังวิวแม่น้ำเบื้องหน้า ก่อนจะหันมามองกวินทร์ด้วยดวงตาที่แน่แน่ว ดั่งคนที่เดินมาถึงทางตัน หมดทางหนี พร้อมทั้งพูดขึ้นว่า
“เธอมีอะไรจะอธิบายให้ฉันฟังละ กวินทร์ ฉันพร้อมแล้ว”
ฉันเอื้อมมือไปหยิบแหวนที่กวินทร์มอบให้ออกมาจากกระเป๋า ขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ และผลักมันเบา ๆ ไปที่กวินทร์
“รีบร้อนจัง เธอจะไม่บอกฉันหน่อยเลยหรือว่าชีวิตเธอเป็นอย่างไรบ้าง” กวินทร์ตัดพ้อ ทั้งสีหน้าโศกเศร้า
“ก็อย่างที่เธอเห็นนั่นแหละ ชีวิตฉันก็มีแต่งาน ถ้าไม่ทำงานก็สังสรรค์กับบรรดาเพื่อนสาว”
“แล้วเธอไม่ได้คบหากับใครหรือ” กวินทร์หรี่ตาและยักคิ้วเล็กน้อยถาม
“ก็มีคุยบ้าง แต่ฉันไม่ได้สนใจอะไร”
“ฉันนึกว่าเธอ จะตอบว่าเธอยังรอฉันเสียอีก” กวินทร์พูดตัดพ้อ ทีเล่นทีจริง
ฉันถอนหายใจ อย่างเสียไม่ได้
“ถ้าฉันรอเธอ แล้วมันจะมีความหมายอะไร ในเมื่อเวลานั้นเธอก็มีมาลิสา และในเวลานี้เธอก็มีสายทิพย์อีกคน”
“ถ้าฉันรู้ว่าเธอรอฉัน เรื่องของฉันและสายทิพย์ก็คงไม่เกิดขึ้น”
ฉันยกเครื่องดื่มขึ้นดื่มอีกครั้งด้วยไม่รู้ว่าจะหาคำใดมากล่าว เมื่อนึกถึงสายทิพย์ขึ้นมา หัวใจของฉันเหมือนถูกกรีดด้วยของมีคมเข้าอีกครั้ง
“ฉันโทรหาเธอเท่าใด เธอก็ไม่เคยรับสายฉันเลย ฉันคิดได้ แต่ว่าเธอคงไม่เหลือเยื่อใยให้ฉันแล้ว” กวินทร์ที่ทำตาตกเหมือนลูกสุนัขโดนทอดทิ้งกล่าว
“เธอเลยไปคบกับสายทิพย์แก้แค้นฉันซินะ” ฉันพูดประชดประชันพลางถลึงตาใส่กวินทร์ที่ทำท่าทีอย่างผู้ถูกกระทำ
กวินทร์หันไปยกแก้วของเขาแล้วดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว ทำเอาฉันถึงกับใจหาย เขากล่าวต่อว่า
“ฉันไม่เคยคิดแก้แค้นเธอเลย ฉันจะทำอย่างนั้นได้อย่างไร ฉันเองที่เป็นคนผิด”
“แล้วทำไม ทำไมต้องเป็นสายทิพย์” เมื่อเอ่ยถึงสายทิพย์ ร่างกายของฉันร้อนวูปไปด้วยความโกรธ
“ฉันไม่ได้ตั้งใจ ระหว่างฉันกับสายทิพย์ มันเกิดจากความบังเอิญ” กวินทร์รีบออกตัวอย่างร้อนรน
ฉันยิ้มเยาะแล้วต่อคำว่า
“บังเอิญอย่างนั้นหรือ ช่วยทำให้ฉันเชื่อทีเถอะ”
“ฉันรู้ว่ามันยากจะเชื่อ และฉันก็เตรียมใจมาแล้ว หากเธอจะไม่เชื่อในสิ่งที่ฉันจะอธิบาย ฉันก็ต้องยอมรับ แต่ทั้งหมดที่ฉันจะเล่าให้เธอฟังนี่ คือความจริง”
กวินทร์มีท่าทีจริงจัง ทั้งยังทำสายตาที่น่าสงสาร จนฉันอดรู้สึกไม่ได้ว่าฉันวางท่าดูถูกดูแคลนเขามากเกินไปหรือไม่ และนั่นทำให้น้ำเสียงของฉันอ่อนลงอย่างมาก
“เธอว่ามาเถอะ ฉันกำลังฟังอยู่”
“บริษัทของสายทิพย์ส่งเขามาดูงานที่อเมริกาเขาจึงแวะมาเยี่ยมฉันฉันเองก็ดีใจที่ได้เจอเพื่อนเก่า” เขาถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะกล่าวต่อว่า
“และฉันก็หวังว่าเขาอาจจะพอมีข่าวคราวของเธอบ้าง”
ฉันคิดแสยะเย้ยข้างใน ข่าวคราวของฉัน จากสายทิพย์หรือ จะมีอะไรดี ๆ ที่หล่อนจะพูดถึงฉัน คงได้ทีใส่ไข่ฉันให้สมใจอยากของเธอ ฉันเพียงแต่คิด แต่ไม่ได้พูดออกมา เพียงแต่ส่งสายตาและพยักหน้าเบา ๆ เป็นสัณญาณให้กวินทร์พูดต่อไป
“ในเวลานั้นฉันต้องทนทรมานอย่างมากจากการคิดถึงเธอไหนจะเรื่องเรียนและเรื่องของมาลิสาหลังจากเธอกลับไปความสัมพันธ์ของฉันและมาลิสาได้มาถึงขีดสุดเราทะเลาะกันไม่เว้นแต่ละวันเขาโมโหหงุดหงิดกับทุกเรื่องที่เป็นไปได้และจ้องจับผิดฉันซึ่งมันก็สมควรแล้วประกอบกับที่ฉันไม่ได้รักมาลิสาอีกต่อไปฉันเลยมาถึงจุดสุดท้ายของความเหนื่อยหน่าย”
ฉันฟังอย่างเหลืออด จนอดไม่ได้ที่จะโพรงถามถึงเรื่องหลังครั้งเก่า
“ฉันไม่เข้าใจ ทั้ง ๆ ที่เธอบอกว่าไม่ได้รักมาลิสา แต่ทำไมเธอถึงเลือกอยู่กับเธอ”
น้ำตาของความโกรธแค้นเอ่อล้น ฉันรีบสะกด กลั้นมันลงไป
“ฉันรู้ดีว่าฉันมันไร้ความน่าเชื่อถือและเธออาจคิดว่าฉันโกหกเรื่องที่ฉันบอกว่าฉันรักเธอเท่านั้นแต่กลับทำส่ิงที่ตรงกันข้าม”
ฉันทำทีเบือนหน้าหนี เพราะเบื่อหน่ายกับเหตุผลที่ดูขัดแย้ง กวินทร์เอื้อมมือมาจับมือของฉันที่วางอยู่บนโต๊ะ ฉันหันมามองกวินทร์ที่ส่งสายตาอ้อนวอนขอความเห็นใจ ด้วยดวงหน้าบึ้งตึง และชักมือของฉันออกอย่างไร้เยื้อใย
“ฉันขอโทษที่ฉันไม่ได้บอกความจริงกับเธอทั้งหมด”
ฉันหันกลับมามองที่กวินทร์ด้วยความใคร่รู้ กวินทร์นิ่งอึ้ง มีท่าทีลังเลที่จะเอ่ยต่อ จนฉันอดรนทนไม่ได้ เอ่ยถามออกไปด้วยใจร้อนรน
“ความจริงอะไรกัน”