ตอนที่ 32 ที่มาของสายฝอ
ลิต้าเจน เดอะ ซีรีส์ 1 หลงทางรักนครมายา
ตอนก่อนหน้าและตอนถัดไปรวมอยู่ในนี้ รวมทุกตอน
ในวันเกิด คนเรามักจะตั้งปณิธานใหม่ ๆ เสมอ ฉันเองก็เช่นกัน การฉลองวันเกิดกับกวินทร์นั้น ทำให้ฉันเริ่มมีดวงตามองเห็นความจริง ผู้ชายที่ฉันเคยรักหนักหนา แท้จริงแล้วก็เป็นเพียงผู้ชายเหลาะแหละคนหนึ่ง ที่มีดีแค่การเอาอกเอาใจ และ โกหกเพื่อเอาตัวรอดไปวัน ๆ
หลังจากเห็นความเป็นจริงนั้น ฉันบังเอิญได้พบเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่ง ที่กวินทร์เคยคบหาก่อนที่จะมาเริ่มความสัมพันธ์กับฉัน เธอเรียนต่างคณะ และฉันเองไม่ค่อยรู้เรื่องของเธอ
การบังเอิญพบกันของฉันกับเธอคนนี้ ทำให้ฉันถึงกับตาสว่างด้วยความจริงอีกด้าน ที่ฉันไม่เคยรู้มาก่อน และเธอเองก็ไม่เคยรู้เช่นกัน
“ลิต้ารึเปล่า” เธอทักฉันขึ้นกลางห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
“ใช่ค่ะ คุณก็ดูคุ้น ๆ” ฉันจ้องมองดูเธอด้วยความฉงนใจ
“เราไม่เคยคุยกัน ฉันเคยคบกับกวินทร์ก่อนที่เขาจะมาคบกับเธอ” เธอตอบอย่างฉะฉานเพื่อทำลายความสงสัยของฉัน
“อ๋อ ค่ะ” ฉันขานรับทั้งยังเดาทางไม่ออก
“ฉันได้ยินข่าวของสายทิพย์กับกวินทร์ เสียใจด้วยนะ มันคงทำให้เธอรู้สึกอึดอัดน่าดู” เธอพูดด้วยท่าทีเห็นใจ ดูเสมือนเป็นมิตร
“ค่ะ มองหน้ากันลำบาก” ฉันถอนหายใจเบาๆ
“มีเรื่องหนึ่งที่ฉันสงสัยมานาน ฉันขอถามอะไรเธอหน่อย”
“อะไรคะ” คิ้วของฉันขมวดเข้าด้วยกัน
“เธอเริ่มคบกับกวินทร์ ตอนไหนหรือ”
ฉันต้องตกใจกับคำถาม หัวใจของฉันเต้นตึกตัก ก่อนที่จะตอบไปว่า
“นั่นมันนานมากแล้ว ตอนช่วงก่อนจบการศึกษาปริญญาตรี”
“ฉันว่าแล้วเชียว ไอ้ผู้ชายสันดานเลว” เธอกัดปากกร่นด่าอย่างหัวเสีย
ทำเอาฉันดวงตาเบิกโพรงไปด้วยความสับสน
“ทำไมเหรอคะ”
“ก็มันยังคบกับฉันอยู่น่ะซิ” เธอตอบพร้อมสะบัดศรีษะอย่างเสียไม่ได้
“ห๊า” ฉันอุทาน ยกมือขึ้นทาบอก
“ฉันก็ว่าอยู่ว่ามันดูมีพิรุธ ทำตัวไม่น่าไว้ใจ แต่ก็จับไม่ได้คาหนังคาเขา”
“จริงเหรอคะ”
“พอมันไปอเมริกา เราก็ห่าง ๆ กันไป มารู้อีกทีก็ได้ยินว่าเธอคบกับกวินทร์ ฉันยังงงว่าเธอมาคบกันตอนไหน ทั้ง ๆ ที่กวินทร์ก็ไม่ได้อยู่เมืองไทยแล้ว ได้แต่สงสัยว่ามันคงจะคบซ้อน แล้วก็จริงอย่างฉันที่ฉันคิด”
“ฉันต้องขอโทษนะคะ ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลย” ฉันรีบขอโทษด้วยความตกใจ เพราะกลัวเธอจะคิดว่าฉันนั้นสมรู้ร่วมคิดแอบคบกันกวินทร์ลับหลัง
“ไม่เป็นไรหรอก เธอโชคดีแล้ว ที่ฟาดเคราะห์จากไอ้ผู้ชายมักมากคนนี้” เธอพูดพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ขอบคุณค่ะ คงจะเป็นโชคดีกระมัง”
…
บทสนทนาในวันนั้น ทำเอาฉันแทบล้มทั้งยืน ฉันเสียใจที่ได้รู้ว่า ความสัมพันธ์ของฉันและกวินทร์นั้นเริ่มต้นจากการหลอกลวง และมันก็ล่วงมาแสนนานกว่าฉันจะรู้ความจริง เสมือนว่าฉันเป็นอีกาในฝูงหงษ์ที่พึ่งสังเกตุห็นความแตกต่างของฉันและส่ิงรอบข้าง มันทำให้ฉันเกิดความสงสัยว่าอะไรบ้างหรือ ที่กวินทร์พูดและกระทำด้วยความจริงใจ
คล้าย ๆ ตื่นออกมาจากแมทริค และพบว่าโลกมิใช่เหมือนในจินตนาการที่ใครคนหนึ่งสร้างขึ้นให้ฉันเคลิ้มฝัน เขาหลอกฉันมาเนิ่นนาน เสมือนว่าฉันไม่เคยรู้ตัวตนที่แท้จริงของกวินทร์เลย
ฉันรู้สึกขยะแขยงต่อความปลิ้นปล้อน จอมมายาของกวินทร์จนถึงขีดสุด จึงตัดสินใจคาดคั้นเอาความจริงที่ฉันได้ล่วงรู้เข้าสู้ กวินทร์ได้แต่ปฏิเสธ ไม่รับข้อกล่าวหาใด ๆ แววตาแห่งความรักที่ฉันมองดูเขามาตลอดช่วงหลายปี แปรเปลี่ยนเป็นแววตาอันชิงชัง ขยะแขยง คำหวานป้อล้อที่เขาเพียรกรอกหูคลายมนต์สะกด
ฉันส่งลากวินทร์อย่างถาวร ตลอดกาลสู่อ้อมกอดของสายทิพย์มิตรชัง ศัตรูที่รัก เธอทั้งสองนั้นเหมาะสมกันอย่างยิ่งแล้ว พร้อมจบเรื่องราวความรักอันจอมปลอมด้วยการกรวดน้ำ คว่ำขัน เกิดชาติใด ขออย่าได้เจอะเจอกันอีกเลย
ฉันนอนกอดหมอนกัดฟันอย่างเดียวดาย มีเพียงมายาที่คอยเป็นเพื่อนผู้รับฟัง เพราะเรื่องของฉันและกวินทร์นั้นเป็นความลับ จนทุกวันนี้ยังมิมีใครล่วงรู้ ประสบการณ์ในครั้งนั้นทำเอาฉันนึกรังเกียจตัวเองหนักหนา ที่ถล่ำใจไปกับคนอันไม่สมควร ยอมรับตำแหน่งผู้แพ้ถอนตัวกลางคัน ดีกว่าชนะในเกมส์ที่ผิด
ฉันกลับเข้าสู่สภาวะจิตตกเข้าอีกครั้ง ภายนอกดูมีชีวิตที่ทันสมัย ฟูฟ่า ภายในนั้นแสนช้ำระกำทรวง น้ำตานั้นแทบไม่มีให้เห็น มันเหือดหายเข้าไปข้างใน สะท้อนออกมาในรูปแบบของความกดดัน และ ความเครียดที่สะสม
ทางออกทางเดิมและทางเดียวขอฉันนั้นคือการดื่ม พอเมาได้ที่ฉันพอจะร้องไห้ออกมาได้บ้าง วังวนเดิมกลับมาอีกครั้ง
“ลิต้า เธอจะปล่อยให้ชีวิตเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้ เห็นทีคงได้เสียการเสียงานกัน” มายากล่าวเตือนสติ
“มายา ฉันรู้ ขอบใจนะที่อยู่กับฉัน”
“เธอก็อย่างนี้ทุกที เห็นค่าฉันก็ต่อเมื่อล้มพับมา”
“ไม่มีเธอเห็นทีฉันคงได้กินยาฆ่าตัวตายเป็นแน่”
“ฉันไม่ให้เธอตายไปง่าย ๆ หรอกนะ เธอต้องลุกขึ้นมาพยายามหาอะไรทำซักอย่าง”
“ทำอะไรละ ฉันไม่มีกำลังใจเลย”
“รายการกบฏของเธออยู่ที่ไหน” มายาย้ำเตือนความทรงจำครั้งเธอจับฉันมาเปลี่ยนลุค ให้เฉิดไฉไลเพราะความโกรธที่มีต่อกวินทร์ในคราก่อน
ฉันกวาดตามองไปรอบห้อง จนสบเข้ากับสมุดโน๊ตที่เคยช่วยชีวิตฉันในคราก่อน ฉันหยิบขึ้นมาพลิกดู
“เห็นทีเธอต้องพึ่งมันอีกครั้งแล้วหล่ะ” มายาสำทับ
“ฉันไม่รู้จะเขียนอะไรแล้ว ฉันเขียนไปหมดแล้ว สิ่งที่กวินทร์ไม่ชอบ”
“คราวนี้เธอต้องเพิ่มรายการใหม่ ๆ ลงไป อะไรก็ได้พิเรน ๆ สนุก ๆ ไม่ต้องเกี่ยวข้องกับกวินทร์ก็ได้”
ฉันเปิดสมุดออก หยิบปากกา และ นั่งนึกถึงอะไรที่ฉันปรารถนาจะทำแต่ยังไม่ได้เริ่มต้น
“เรียนเต้นรำ ไปดำน้ำ ท่องเที่ยวคนเดียว” มายาแนะ
ฉันเขียนมันลงไป หมายเพียงทำให้เวลาทั้งหมดที่มีหมดไป เพราะถ้าเมื่อใด ฉันต้องอยู่ลำพังโดยปราศจากสิ่งเร้า กวินทร์จะกลับเข้ามาในห้วงของความคำนึงเสมอ
ความทุกข์ทรมานนั้นก็มิได้แต่ส่งผลแต่ทางด้านแย่ ๆ เพียงอย่างเดียว ด้วยความพยายามทำตัวเองให้ยุ่ง และดูมีค่า ฉันพัฒนาตัวเองอย่างรวดเร็ว ฉันกลายเป็นคนชอบการแข่งขัน นั่นอาจเป็นเพราะมันทำให้ฉันรู้สึกชนะ หรือเพื่อทดแทนต่อความพ่ายแพ้ที่มีต่อมาลิสา และ สายทิพย์ ฉันเองก็ไม่รู้ได้
ความสามารถทางด้านภาษาของฉันก็ดีขึ้น เพราะตั้งแต่กลับมาจากประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว ฉันเลิกฟังเพลงไทย ละครไทย หนังไทยทั้งหมด ทุกอย่างมันกระทบจิตใจฉันไปเสียหมด เพียงแค่ได้ยิน ได้เห็น เรื่องราวอันบัดซบก็กลับมาย้ำเตือนฉันอีกครั้ง ความเศร้าเข้าถาโถมโจมตีทันท่วงที ฉันหันไปเสพสื่อสากลแทน เพราะความที่ฟังไม่ค่อยเข้าใจ รู้ตัวอีกที ฉันก็ฟังและพูดได้ดีแบบไม่ได้เจตนา จนทุกวันนี้บ่อยครั้งที่ฉันมักนึกขอบคุณกวินทร์เสมอ
และแล้วเมื่อนกน้อยที่ปีกหักเริ่มจะเยียวยา และ ปีกกล้าขาแข็ง ความคิดอุตริจึงเกิดขึ้น
“ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ซักครั้งในชีวิต เธอลองคบพวกฝรั่งดูซักทีดีไหม” มายาแนะ
“โอ้ย จะไหวเหรอ แค่คิดก็รู้สึกเครียดแล้ว ไหนจะภาษา รูปร่างหน้าตาก็ไม่ใช่แนวฉันเลย” ฉันส่ายหัวรั้น “วัฒนธรรมที่แตกต่างอีก”
“ฉันว่าเธอกลัวมากกว่าละมั้ง”
“ที่ไหนละ ฉันชื่นชอบสูงยาวขาวตี๋เสียมากกว่า พวกฝรั่งตาน้ำข้าว นี่ไม่ใช่แนวเลย”
“เอาเหอะ ฉันพูดเล่น ๆ ก็ว่าอยู่ว่าเธอคงไม่กล้า” มายากล่าวท้า
“ใครว่าฉันไม่กล้า ลองดูไหมละ” ฉันนึกฮึดขึ้นมา
อย่างว่าได้ยินคำท้าทายไม่ได้ ความพ่ายแพ้ในอดีตมันทำให้ฉันอยากเอาชนะ เอาชนะแม้แต่ความกลัวของตัวเอง
“แล้วฉันจะไปตามหาฝรั่งมังค่าที่ไหนมาคบหา”
“ที่ทำงานเธอละ” มายาแนะ
“โอ้ย ก็พอมีฝรั่งอยู่บ้าง แต่ส่วนมากถ้าไม่แก่มาก ก็แต่งงานมีครอบครัวแล้ว หรือ ถ้ายังโสด ก็เป็นที่หมายปองของผู้หญิงทั้งแผนก และเธอก็รู้ ฉันไม่นิยมเอาเรื่องส่วนตัวมา เกี่ยวกับเรื่องงาน”
“ฮ่า ๆๆ ไม่อยากใครรู้ซินะ ว่าท่าทีดูเอางานเอาการ ไม่ค่อยพูดค่อยจา อีกฉาก คือเจ้าแม่สังคมจัด เมารั่ว ถึงไหนถึงกัน” มายาล้อเลียน
“เออ พอเลย ก็เธอนั่นแหละ ลากฉันไป มา ๆ พาฉันไปหาหลัวฝรั่งหน่อย”
“เว๊ปออนไลน์ไหมละ”
“ต๊าย ไม่เอาหรอก กระดาก ยังกับคนที่ไม่มีทางเลือก”
“เอาเหอะ เธอในเวลานี้ก็ไม่ใช่ผู้หญิงหงิม ๆ ขี้เขินอายเสียแล้ว จะมากลัวอะไร ฉันว่าเธอกลัวไม่มีใครเอามากกว่ามั้ง”
“อย่ามาท้า เดี๋ยวจะสำแดงฝีมือให้ดู”
และแล้วฉันก็ได้ผันตัวเข้าสู่สังเวียนการออกตามล่าฝรั่งมังค่ามาเป็นผัว หรือ จะเรียกอีกอย่างว่าเส้นทางสายฝออย่างเป็นทางการ โดยมีมายาคอยเป็นคนเชียร์อยู่ข้าง ๆ