ตอนที่ 35 เส้นทางสายฝรั่งอันเร่าร้อน (18+)
ลิต้าเจน เดอะ ซีรีส์ 1 หลงทางรักนครมายา
Image by StockSnap from Pixabay
ตอนก่อนหน้าและตอนถัดไปรวมอยู่ในนี้ รวมทุกตอน
“เธอชอบเขาเข้าแล้วซิ อีตาดีนนั่น” มายาตั้งข้อสังเกตุ
“ดูออกง่ายขนาดนั้นเลยหรือ” ฉันถาม
“แหม ฉันรู้จักเธอมานาน”
“จริงของเธอ เธอว่าเขาจะชอบฉันบ้างไหม”
“ไม่รู้ซิ แต่ที่ฉันแน่ใจเขาอยากเอาเธอ”
“ฉันก็อยากจะโดนเอาอยู่เหมือนกัน แต่นี่เขายังไม่นัดเจอฉันอีกครั้งเลย”
“เธอก็ลองเป็นฝ่ายบุกบ้างซิ จะรออย่างเดียวเลยหรือไง ส่งข้อความไปเลย ส่งรูปด้วย”
“เอางั้นเลยเหรอ”
ฉันเริ่มจะรุกเขาบ้าง กลเม็ดที่คิดว่าน่าจะใช้ได้ ฉัดงัดมาลอง กะว่าให้เขาคิดถึงและนัดเจอฉันอีกครั้ง จนในที่สุดพ่อหนุ่มดีนมากเซอร์ก็นัดหมาย บอกว่าจะทำอาหารเย็นให้ทาน ฉันนั้นถึงกับว้าว ทำอาหารให้เชียวหรือ หารู้ไม่ว่า เมื่อมนุษย์ผู้ชายที่มีความใคร่นัดหมายสาวใดไปที่บ้าน อ้างทำอาหารให้ ในใจเขานั้นวางแผนจะโอ้โลมหวังเผด็จศึก แต่ถึงรู้เท่าทัน ฉันนั้นก็คงไปให้เขาจัดซักยกสองยกอยู่เป็นแน่ เพราะความคิดถึงนั้นถาโถมเข้ามาเกินกว่าจะเล่นท่า รอยสัมผัสอันเร่าร้อนยังติดตรึงมิเสื่อมคราย ไม่ใช่เพียงร่างกายมันแทรกซ่านไปทั่วทั้งจิตวิญญาณ
เย็นนั้นฉันแต่งองค์ทรงเครื่องอย่างดี เล็มขนในที่ลับไม่ให้ขัดหูขัดตา สวมกางเกงชั้นในลูกไม้สุดเซ็กซี่ คิดเอาไว้แล้วว่าคงไม่รอดแน่ ๆ เพียงแค่นึกฉันก็รู้สึกตุบ ๆ ที่ช่องท้องและร้อนวาบไปทั้งช่วงล่าง กลิ่นกายของเขาคละคลุ้งขึ้นในความทรงจำ
“สวัสดีค่ะ คุณสบายดีไหม ดีน” ฉันกล่าวทักทายตามธรรมเนียมเมื่อมาถึงบ้านผู้เชิญ
“ยุ่งมาก แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้วหล่ะ ขอบคุณนะครับที่มา” เขาตอบพร้อมทั้งดึงฉันเข้าไปกอด และ หอมฟอดใหญ่
ฉันสะดุ้งเล็กน้อย ถึงแม้จะพอรู้มาบ้างว่าธรรมเนียมฝรั่งนั้น การทักทายแบบถึงเนื้อต้องตัวออกจะเป็นเรื่องธรรมดา โดยเฉพาะฉันกับดีน ที่ไม่ใช่แค่แตะเนื้อต้องตัวกันธรรมดา แต่ได้เคยชุลมุนพัลวันแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่มมาแล้ว ลำพังแค่สวมกอดและหอมฟอดใหญ่ไม่น่าจะทำให้ฉันต้องสะดุ้งโหย่งไปได้
“คุณละ” เขาถามกลับทั้งยังคงโอบกอดฉันอยู่
“ก็เรื่อย ๆ ค่ะ” ฉันตอบไปโดยรู้ว่ามิได้มีความหมายตามจริงแต่อย่างใด หากแต่ถ้าฉันตอบตามที่เป็น ฉันคงต้องพูดว่า เหวง ๆ ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว คิดถึงคุณจนไม่เป็นอันทำงาน สลับกับครั้นเนื้อครั้นตัวคล้าย ๆ คนใกล้จะเสียตัวอย่างไรอย่างนั้น
ดีนหยิบขวดไวน์แดงขึ้นมา
“แมร์กโลต์ จาก บอร์กโดซ์ แหล่งมีชื่อเสียงในการผลิตไวน์ ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส” ดีนพูดภาษาที่ฉันฟังไม่รู้เรื่องในขณะที่ยกขวดไวน์แดงขึ้นให้ฉันได้ชม
“ว้าว” ฉันทำทีท่าตื่นเต้นทั้ง ๆ ที่ไม่เข้าใจซักนิดว่ามันมีดีอย่างไร ดีนบรรจงเปิดขวดอย่างช่ำชอง เขาดูคุ้นชินกับการดื่มไวน์เป็นอย่างดี
เขารินเครื่องดื่มลงบนแล้วที่วางอยู่ที่โต๊ะรับประทานอาหาร แล้วทำทีท่าเชื้อเชิญ ฉันยกแก้วไวน์ขึ้นจรดจมูกสูดดมกลิ่น ตามที่ได้เคยเห็นบรรดาผู้รู้เขาทำกัน กลิ่นหอมของฤดูร้อนแตะจมูกฉัน ฉันค่อย ๆ ยกไวน์ขึ้นลิ้มลอง รสชาตินุ่มนวลและดื่มง่าย ฉันไม่มีความรู้เรื่องไวน์ซักเท่าไหร่หรอก ฉันรู้แค่ว่าดื่มได้ กับ ดื่มไม่ลง
ดีนทำทีเหมือนขอความคิดเห็น ฉันจึงรีบตอบเพื่อเอาใจเขา
“อืม นุ่มลื่น มีกลิ่นไอของแสงแดดในฤดูร้อน” ฉันพูดทีเล่นทีจริง เขาดูมีท่าทีพอใจ และรินไวน์เพิ่มให้ฉันและตามด้วยแก้วของเขา
เขายกแก้วขึ้น ฉันทำตาม
“เชียร์” เราชนแก้วไวน์เพื่อการฉลองค่ำคืนอันดูดดื่มที่กำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่ช้า
คืนนี้ดีนทำอาหารฝรั่ง เป็นเนื้ออบที่เข้ากันอย่างดีกับไวน์แดงที่เขาเลือกมา เราพูดคุยหยอกล้อกันอย่างเป็นกันเอง ยิ่งฉันดื่มมากเท่าไหร่ ยิ่งรู้สึกเป็นตัวของตัวเองมากเท่านั้น ความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษของฉันดูจะพัฒนาตามปริมาณแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป
“ของหวาน” ดีนทำทีถามเมื่อเราทานมื้อค่ำกันจนเสร็จเรียบร้อย
“เย้ ฉันชอบของหวานที่สุด”
“หวังว่าคุณจะชอบของหวานที่ผมเตรียมไว้ให้คืนนี้” เขาพูดพร้อมทั้งขยิบตาอย่างเจ้าเล่ห์ เล่นเอาฉันแอบนึกแว๊บไปถึงเรื่องอย่างว่าเข้าให้
เขาหายไปในครัวไม่นาน ก็ยกจานขนมเล็ก ๆ ออกมา
“เรด เวลเวท” ฉันอุทานขึ้นเมื่อเห็นขนมเค้กสีแดงสลับขาวในจานเล็ก ๆ ที่ดีนถือออกมา
ฉันเอื้อมมือไปรับด้วยความตื่นเต้นเหมือนเด็กได้ของเล่น ดีนชักมือออกแล้วทำท่ามีเลศนัย
“คุณคิดว่าคุณจะได้ทานเค้กนี้ง่าย ๆ หรือครับ” เขาพูดพร้อมพยักคิ้วหลิ่วตา ฉันนั้นยังเดาทางไม่ออกแต่คงเป็นอะไรที่ทะลึ่งพิเรนเป็นแน่แท้
ดีนใช้นิ้วมือของเขาจิ้มลงไปช้า ๆ ยังขนมเค้ก ชวนให้ฉันนึกถึงท่อนเนื้อที่บดขยี้หน้าขาของฉันเมื่อคราก่อน ฉันเผลอเผย่อปากออก หายใจแผ่วเบา เขาดึงนิ้วมือที่เต็มไปด้วยครีมเค้กออกมา แล้วจงใจใส่มันลงไปในปากของฉัน
“ทานซิครับ” เขากระซิบข้างหู
ฉันที่กำลังมึนเมาได้ที่ ทั้งยังตื่นตัวจากเย้ายวนของดีน จึงใช้ลิ้นดุลและดูดเอาครีมสีขาวอันหวานฉ่ำจากนิ้วของเขาอย่างดูดดื่มดั่งมีน้ำทิพย์พวงพุ้งออกมาจากปลายนิ้วนั้น พลางนึกจินตนาการถึงท่อนเนื้อที่คงหวานไม่ต่างกัน สายตาของดีนจับจ้องมองที่ฉันอย่างพอใจ เขาละนิ้วมืออกและจิ้มลงไปยังเค้กอีกครั้ง คราวนี้เขาเอาครีมของขนมปาดป้ายไปบนใบหน้าของฉัน ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ ลิ้มเลียความหวานจากข้างแก้มของฉัน และไซร์ไล่ลงไปยังซอกคอ ฉันเผย่อปากและ ครางอย่างแผ่วเบา ก่อนหน้านี้ตื่นเต้นกับของหวานในเวลานี้ได้ลืมมันไปหมดสิ้น จะมีอะไรที่หวานไปกว่าสัมผัสอันเร่าร้อนที่ฉันเฝ้าถวิลหาของพ่อหนุ่มพิมพ์ดีและเป็นงาน
ดีนใช้มือทั้งสองเปลื้องผ้าของฉันออก โดยฉันมิได้ขัดขืนแต่อย่างใด เมื่อกายเนื้อท่อนบนของฉันโดนเปลื้องจนไม่เหลืออะไรปิดบังแล้ว ดีนจ้องดูอย่างไม่กระพริบตา
“คุณสวยมาก โดยเฉพาะเวลาที่ไม่มีเสื้อผ้า” เขาพูดพร้อมทั้งโลมเลียฉันไปทั่วร่างด้วยสายตา ทำเอาฉันเขินอายยกมือขึ้นมาปิดสองถันแล้วเบนตัวหนี
ดีนจึงดึงฉันเข้ามาสวมกอดพร้อมกับพูดว่า “ผมช่วยปิดให้”
เขาอุ้มฉันขึ้น และตรงไปยังเตียงนอนที่ชั้นสองโดยมิได้หันมาสนใจของหวานที่ยังเหลืออยู่แม้แต่น้อย
เขาวางฉันลงบนเตียงนอน แล้วปลดเปื้องเสื้อผ้าของเขาจนหมดสิ้น ในหน้าของฉันร้อนผ่าวไปด้วยความตื่นเต้น กล้ามเนื้อที่แม้ไม่ใหญ่มาก แต่อัดแน่นไปด้วยมัดเนื้อคุณภาพ หน้าขาดั่งนักกีฬาฟุตบอล และ ท่อนเนื้อตรงหว่างขาที่ตั้งตระหง่านสูงเด่นเป็นสง่ายิ่งกว่าเทพีเสรีภาพ ทำเอาฉันรุ่มร้อนไปด้วยความหลงไหล งานดีทั้งนอกและใน อดนึกไม่ได้ว่าลีลาจะเป็นเช่นไร ไม่ทันได้นึกฝันไปไกล ดีนปลดกระโปรงฉันออกอย่างรีบร้อน เผยให้เห็นกางเกงชั้นในสุดเซ็กซี่ที่จงใจใส่มาเพื่อเขาโดยเฉพาะ เขาค่อย ๆ สัมผัสเนินเนื้อของฉันจากภายนอก ที่ในเวลานี้ความชื่นได้ปกคลุมไปทั่ว เตรียมพร้อมสู่การเพาะปลูกต้นกล้าแห่งรัก
เขาใช้นิ้วอันเรียวยาวและแข็งแรงสอดเข้าไปใต้กางเกงชั้นในและสัมผัสยอดเนินเนื้ออย่างแผ่วเบา กระแสไฟฟ้าอ่อน ๆ วิ่งตรงจากสุดซ่อนเร้นไปทั่วร่าง ทำเอาฉันสะดุ้งเผยอปากครางอย่างไร้การควบคุม
เขาจงใจกดเรียวนิ้วลงตรงหว่างกลางกลีบลำดวน สัมผัสเข้าที่จุดเสี่ยวกระสัน และบดขยี้อย่างเมามันส์ ฉันแอ่นสะโพกรับ หลับตาลงเห็นดวงดาวพร่างพราวสกวาวแวววาว
คืนนั้นดีนได้มอบความสุขสมให้ฉันครั้งแล้วครั้งเล่า และนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันต้องยอมรับกับตัวเองตรง ๆ ว่า ไม่ว่าเส้นทางสายฝอ ฝรั่งนี้จะเต็มไปด้วยสิ่งใดที่ไม่อาจคาดเดาได้ ฉันก็ไม่ขอกลับไปเดินเส้นทางเดิมอีกต่อไป