ตอนที่ 36 บู๊ตตี้คอล
ลิต้าเจน เดอะ ซีรีส์ 1 หลงทางรักนครมายา
Image by zheng shi from Pixabay
ตอนก่อนหน้าและตอนถัดไปรวมอยู่ในนี้ รวมทุกตอน
หลังจากคืนอันเร้าร้อนของสองเรา ดีนมักจะโทรมาหาฉันในยามวิกาล บอกว่าคิดถึง และร้องขอให้ฉันไปหาเขาอยู่เป็นประจำ ฉันได้เปิดประสบการณ์ใหม่ไปกับความคิดสร้างสรรค์และความสัดทัดเจนจัดของดีน ในการเอาอกเอาใจของเขา จนฉันหลงดีนถึงขึ้นหัวปักหัวปำ แต่นอกจากความสัมพันธ์บนเตียงของเราที่พัฒนามากขึ้น ด้านอื่น ๆ กลับจืดชืด เขาไม่เคยพาฉันออกไปเดทข้างนอก หรือแม่แต่จะแนะนำฉันให้รู้จักกับโลกของเขา ในขณะที่ฉันคิดลึกซึ้งกับเขาไปไกลเกินกว่าจะถอยกลับ
ทุกครั้งที่เขาถึงจุดสูงสุดและนอนแผ่ลงข้างกาย ฉันอดคิดไม่ได้ว่า เขานั้นเห็นฉันเป็นดั่งคนรัก หรือ เพียงที่บำบัดความใคร่
“ฉันว่ามันทะแหม่ง ๆ แล้วละอีตาดีนนี่” มายาเกริ่น
“พวกฝรั่งเขาอาจจะไม่เหมือนคนไทยก็ได้”
“เธอรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ เหรอ”
“จริง ๆ ฉันก็รู้สึกกลัวอยู่ลึก ๆ ฉันจะทำยังไงดี”
“ฉันก็ไม่รู้เรื่องพวกฝรั่งซะด้วยซิ ลองถามเพื่อนเธอ ยัยลิซ่า ยัยนีน่าดูซิ ว่านางจะว่าอย่างไร”
“จริงของเธอ ขอบใจมากมายา”
ลิซ่า และ นีน่า นั้นเป็นผู้มากประสบการณ์เรียกว่าคว่ำหวอดอยู่ในวงการตามล่าหาผัวฝรั่งมาช้านาน และเจนสังเวียนมากมายกว่าฉันนัก
เธอสองผู้นี้ถึงแม้จะมีความชื่นชอบในฝรั่งตาน้ำข้าวเหมือนกัน แต่บุคลิคและนิสัยนั้นต่างกันสุดขั้ว ลิซ่า เธอก๋ากั๋นสมชื่อ เป็นพวกหัวนอก รักสนุก สิ่งที่เธอพูดคือสิ่งที่เธอคิด เวลานางชอบใครนางไม่รีรอ นางบุกถึงที่ ไม่มีเต๊ะท่าหรือวางมาดให้เสียเวลา คำว่ากุลสตรีไทยเป็นอะไรที่ตรงข้ามกับนางทุกอย่าง นางเคยแต่งงานกับคนไทยเชื้อสายจีนที่มีอายุและมั่งคั่งตั้งแต่อายุพึ่งจะยี่สิบ ด้วยความเด็กและไม่ประสีประสาต่อการสร้างครอบครัว และความรักสนุกของนาง ทำให้ชีวิตคู่ไปไม่รอด ต้องเลิกร้างกันไป แต่อย่างไรเสียนางก็ได้ทรัพย์สินมาพอสมควร ใช้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ปล่อยให้เช่า อยู่กินได้อย่างสบายตามสมควร ต่อมานางไปได้ผัวอยู่กินกับหนุ่มชาวสแกนดิเนเวีย แต่ด้วยชีวิตที่ราบเรียบและน่าเบื่อ นางจึงตัดสินใจทิ้งผัวหันมาเป็นดั่งวิหกโผบิน วิ่งตามหาความสุขชั่วข้ามคืนในเมืองกรุงศิวิไลท์กรุงเทพแห่งนี้
ส่วนนีน่านั้น หล่อนเป็นสาวโสด ยังไม่เคยแต่งงาน มาดดี แต่งตัวหมดจรดอย่างคุณนายอันมีจะกิน ถึงแม้จะเป็นพนักงานเงินเดือนรายได้ไม่กี่หมื่นบาท แต่จังหวะจะโคลนการเคลื่อนไหว หรือแม้แต่เรียวยิ้มถูกฝึกฝนมาอย่างดี ดั่งมีผัวมั่งคั่งคอยดูแลแบบยุงมิให้ไต่ไรมิให้ตอม หากไปที่บ้านเธอ จะพบคัมภียร์บริหารเสน่ห์วางบนแท่นบูชาอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งหมดนี้เพื่อภารกิจหาผัวรวยอัพเกรดชีวิตให้เหมือนถูกหวยในคราเดียว
ทั้งสองความต่างก็กลับกลายมาเป็นเพื่อนสนิทของฉัน ฉันชอบที่พวกหล่อนรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และไม่เหนียมอาย กล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง ดีเลวพวกนางแฉหมด โดยเฉพาะพวกความเลวของพวกผู้ชายสายฝอ ฟอ ฝรั่ง
ฉันและมายานัดเจอพวกหล่อนที่บาร์นั่งดื่มบรรยากาศดีย่านทองหล่อ ด้วยมีเรื่องของดีนอยากจะปรึกษา
“นั่นไงยัยนีน่า นั่งอวดโฉมอยู่ตรงนั้น” มายาชี้ชวนให้ฉันมองไปยังโต๊ะประจำ
ตามเคยนางนั้นงามหมดจด ออกแนวผู้ดีที่โชว์ของบ้างเล็กน้อยพองาม ไม่ถึงกับล่อเสือล่อตะเข้
เราตรงดิ่งที่เข้าทักทายด้วยการกอดและแตะแก้มซ้ายขวาแบบธรรมเนียมฝรั่ง
“แหม ในที่สุดก็มีเวลาว่างให้เพื่อนนะยะ ไปติดหนุ่มที่ไหนมาบอกฉันซะดี ๆ” นีน่าทักทายแกมประชดประชัน
“บอกแน่ ไม่ต้องห่วง ว่าแต่ยัยลิซ่าละ” ฉันถาม
นีน่ายักไหล่ เล่ห์สายตาพร้อมทั้งยักคิ้วไปทางด้านข้าง ฉันหันมองไปตามทิศที่นางบอกใบ้ ก็เห็นลิซ่ากำลังคุยกับผู้ชายสูงใหญ่ ผมบรอนซ์ดูดี ท่าทางฉอเลาะดูมีความสุขเกินหน้าเกินตา จนฉันอดจะหมั่นไส้ไม่ได้
“แหม นังลิซ่า จีบหนุ่มแต่หัววันเชียว” มายาเหน็บยัยลิซ่าที่มักจะตรงถลาเข้าไปทักทายผู้ที่ดูดีอย่างไม่เขินอาย บางครั้งฉันก็อดอิจฉาในความกล้าได้กล้าเสียของนางเอาเสียไม่ได้
“ว่าแต่แกจะดื่มอะไร” นีน่าถาม
ฉันหันไปมองเครื่องดื่มที่อยู่ตรงหน้านีน่า สีเหลืองสดใสคล้ายเบียร์ พร้อมทั้งถามว่า
“แล้วแกดื่มอะไร”
“ไซเดอร์ เป็นน้ำแอปเปิ้ลหมัก มาจากอังกฤษ ลองมะ” นีน่าตอบพร้อมยกแก้วของเธอยื่นมาทางฉัน ฉันรับมาแล้วจิบชิม รสชาติหวานซ่อนเปรี้ยวแสนสดชื่นและฟองละมุมนุ่มลิ้นชวนให้ซาบซ่าน มายาหันไปทางบาร์ ชี้แก้วของนีน่าที่ฉันกำลังดื่ม เป็นสัญญาณว่าขอแบบนี้เพิ่ม
ลิซ่าหันมาพอดี เธอทำท่าทีดีใจ แล้วหันไปพูดอะไรซักอย่างกับพ่อหนุ่มผมบรอนส์นายนั้น พร้อมกับชี้มือมาทางพวกเรา หนุ่มนั่นหันตามมือมา พร้อมกับส่งยิ้มให้ ฉันยิ้มรับ แล้วซักพักเธอจึงยอมทิ้งพ่อหนุ่มนั่นและเดินมาสมทบกับพวกเรา
“ว่าไง หน้าตามีความสุขนะหล่อน ติดกับหล่อนหรือยัง หน้าตาดีนะพ่อหนุ่มคนนั้น” นีน่าถามปนเหน็บแนมเบา ๆ
“น่ารักใช่ม๊า ส่งตรงมาจากเยอรมัน พึ่งมาถึงเมืองไทยไม่นาน แต่น่าเสียดาย อีกอาทิตย์นางก็จะกลับแล้ว” ลิซ่าทำท่าทีเคลิบเคลิ้มเมื่อพูดถึงพ่อหนุ่มผมบรอนส์ ตัวสูงใหญ่คนนั้น
“โอ้ยตาย นักท่องเที่ยวเหรอ แถมยังพวกเยอรมันอีก” นีน่าอุทาน
“ทำไมหรือ” ฉันถาม
“นักท่องเที่ยว พวกนี้ก็กะแค่เอาเธอมันส์ ๆ แล้วมันก็กลับบ้านมัน แถมพวกเยอรมันยังขึ้นชื่อเรื่องความ งก น่ะซิ” นีน่าผู้มีหลักการเสมอออกความเห็นอย่างออกรสออกชาติ
“แหม จะเสียตัวทั้งที เลือกดี ๆ หน่อยซิเธอ” มายาออกความเห็นด้วยความหมั่นไส้ยัยลิซ่าอยู่เป็นทุน
“มันเรื่องของฉัน เอามันส์ ๆ ฉันชอบ ถุงยางฉันออกตังต์ซื้อให้ก็ได้” ลิซ่าพูดจาทะเล้น ทำเอาฉันอดหัวเราะต่อขันไม่ได้
“ขอให้สมใจอยากยะ ว่าแต่ลิต้า ไหน ๆ เธอเล่ามา เธอว่ามีเรื่องอะไร” นีน่ารีบตัดบทเข้าเรื่องด้วยความอยากรู้
เด็กเสริฟหน้าตาดียกเครื่องดื่มมาเสริฟ ฉันยกดื่มขึ้นย้อมใจก่อนจะเล่ารายละเอียดแบบถี่ยิบ รวมทั้งท่าเด็ด ลีลาดั่งเทพแห่งความรัก โดยมีมายาคอยช่วยเสริมโดยเฉพาะความจริงที่ว่า นอกจากเรื่องบนเตียงและลีลาของดีนแล้ว เรื่องอื่นฉันแทบไม่รู้อะไรเลย
“โห ฉันอยากเป็นเธอเลย ลิต้า คงจะฟินน่าดู” ลิซ่าผู้ทำหน้าเคลิบเคลิ้มตลอดการฟังพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น
“นี่ไม่ใช่เวลาพูดเล่นนะ” มายาดุยัยลิซ่าที่หาสาระอะไรไม่ค่อยได้
“แหม จริงจังไปได้ เดี๋ยวแก่ไวนะ” ลิซ่าหยอกเย้าไม่เลิก
“ทำไม เธอรักเขาเข้าแล้วละซิ” นีน่าชิงถาม ฉันได้แต่พยักหน้าเศร้า ๆ
“รักคงไม่พอ หลงหัวปักหัวปำก็ว่าได้” มายาอธิบายเสริม
“แล้วเขาไม่เคยบอกรักเธอเลยเหรอ” ลิซ่าถามอย่างอดไม่ได้
“ถ้าเคย คงไม่ถ่อมาถามพวกเธอหรอก” มายาชิงตอบ
“มันก็ไม่แน่นะ ไม่รักตอนนี้ก็อาจจะอีกหน่อยก็รักได้” ลิซ่ารีบปลอบ
ฉันส่ายหน้าอย่างหมดความหวัง
“ฉันว่ายากแล้วหล่ะ” นีน่าพูดขึ้นอย่างผู้มีประสบการณ์
“ทำไมละ” ฉันถามด้วยแววตาเศร้าสลด
“อย่างนี้เขาเรียกว่า บู๊ตตี้คอล” นีนาอธิบาย
“ห๊า” ฉันอุทาน
“อะไร บู๊ตตี้คอล เล่ามามาช้า” มายาเร่ง
“ก็เวลาผู้ชายโทรหาเธอยามวิกาล ให้เธอไปหาแล้วก็มีอะไรด้วย พฤติกรรมแบบนี้เขาเรียกว่าบู๊ตตี้คอล หรือง่าย ๆ เขาเห็นเธอเป็นเพียงคู่นอน” นีน่าขยายความเพิ่ม ที่ทำเอาฉันถึงกับหน้าเปลี่ยนสี
“เขาสนใจเรื่องราวของเธอบ้างรึเปล่า แบบว่าอยากรู้จักโลกของเธอ เพื่อนของเธอ เธอชอบอะไร อะไรพวกนี้” ลิซ่าถามบ้าง
ฉันทำทีนึก “ก็ไม่นะ หลัง ๆ มานี้เราพูดกันน้อยมาก ฉันมาถึงเขาก็แทบจะแก้ผ้ารอแล้ว”
“จริง ๆ ก็ไม่เลวเท่าไหร่” ลิซ่าอดไม่ได้ที่จะติดทะลึ่งตึงตัง
“ลิซ่า ไม่ไช่เวลามาพูดเล่น” มายาเอ็ดลิซ่าที่ยังล้อเล่นไม่เลิก
“ฉันไม่อยากให้แกเสียใจ แต่มันก็ออกจะชัดอยู่แล้ว” นีน่าพูดด้วยท่าทีเห็นใจ “แต่ถ้าแกไม่แน่ใจ แกลองไม่ไปหาเวลาที่มันโทรมา ดูซิว่านายดีนจะมีท่าทีอย่างไร จะบุกแกบ้างรึเปล่า หรือว่ามันจะหายไป หาเหยื่อคนใหม่ต่อไป” นีน่าแนะนำ
“ฉันเห็นด้วย ต้องลองดูอย่างที่แกว่า” มายาสำทับ
ฉันพยักหน้า ถอนหายใจเหือกใหญ่ แอบกลัวอยู่ลึก ๆ ว่าดีนจะหายไปดื้อ ๆ คนอย่างเขาคงหาคู่นอนได้ไม่ยาก น้ำตาซึมที่หางตา
“ลิต้า ไม่เอาน่าอย่าเศร้าไป ผู้ชายมีมากมาย” ลิซ่าพูดพลางโอบหลังของฉัน
จริงอยู่ที่ผู้ชายนั้นมีมากมาย แต่คนที่ทำให้หัวใจฉันเต้นตูมตาม เห็นนาน ๆ ทีถึงจะผ่านมาซักคน
“อย่างที่ลิซ่าว่า แกน่ะทั้งสวย ทั้งสาว การงานก็ดี เดี๋ยวก็หาใหม่ได้ และยังไงแกก็ยังมีพวกฉัน” นีน่าปลอบประโลม ฉันรู้สึกขอบคุณที่มีพวกหล่อน ไม่เช่นนั้นเส้นทางแห่งความรักกับหนุ่มต่างชาติเห็นทีจะเดียวดาย
“หรือเธอ ให้ฉันติดต่อ เพื่อนของตาเยอรมันนั่นให้เอาไหม ดูซิน่ากินทั้งนั้น” ลิซ่ารีบเสนอความคิดขึ้นทันควัน
“พอเลยยัยลิซ่า มันใช่เรื่องไหมนั่น” มายาเอ็ด
“ขอบใจพวกแกนะ ถึงผู้ชายจะเหงซวย อย่างน้อยก็มีเพื่อนที่รับฟังทุกอย่างอย่างพวกแก” ฉันตอบซึ้ง ๆ
“งั้นเรามาฉลองกัน”
พวกเรายกแก้วขึ้นพร้อมกันเป็นธรรมเนียมการฉลองตามแบบฉบับตะวันตก
“เชียร์”
กระทบแก้วกันเสียงดังคริ้ง ๆ แล้วยกเครื่องดื่มขึ้นดื่มไปอย่างรวดเร็ว
“แต่ถ้านายดีนนั่นลีลาดีขั้นเทพ เธอเก็บมันไว้เป็นคู่นอนก็ได้นี่ อย่าคิดมาก ๆ หรือจะแนะนำให้ฉัน ฉันไม่ถือสาหรอก” ลิซ่าพูดทีเล่นทีจริง ทำเอาฉันรู้สึกตลกตามเธอไป และนึกอยากจะเป็นเธอขึ้นมาทีเดียว
เห็นจะจริงอย่างลิซ่าพูด เธอผ่านการแต่งงานมาแล้ว เวลานี้เธอมองหาเพียงความสุขชั่วคราว ถ้าฉันเลิกคิดจริงจัง การได้รับความสุขเป็นครั้งคราวจากดีน ก็ไม่ได้เลวร้ายซักเท่าไหร่ แต่หัวใจของฉันซิ เต็มไปด้วยความคาดหวัง และอยากให้เขาเห็นฉันเป็นมากไปกว่าที่ระบายอารมณ์
พวกเราพูดคุยสัพเพเหระ ส่องหนุ่มกันอย่างสนุกสนาน แต่ลึก ๆ ข้างในใจฉันรู้สึกเจ็บแปลบไปทั้งหัวใจ ฉันเป็นได้แค่เพียง บู๊ตตี้คอลเท่านั้นเองหรือ เขาจะไม่เห็นค่าฉันมากไปกว่านี้เชียวหรือ