ตอนที่ 38 รถไฟชนกัน
ลิต้าเจน เดอะ ซีรีส์ 1 หลงทางรักนครมายา
Image by Pera Detlic from Pixabay
ตอนก่อนหน้าและตอนถัดไปรวมอยู่ในนี้ รวมทุกตอน
“ยัยลิต้ามันหมายหัวผู้ชายคนนั้น กับอีกคนตรงนั้น” ลิซ่าใช้หน้าและปากชี้บอกเป้าหมาย
“เสื้อดำหน้าเด็ก กับเสื้อขาวเก็กขรึมอยู่ตรงนั้น” เธออธิบายเสริม
“ดูดีนี่ ทีนี้เธอก็เริ่มส่งสายตาไป จ้องน่ะจ้อง เข้าใจไหม” นีน่าบอกบท
“มันจะไม่ดูประเจิดประเจ้อไปหรือ” มายาค้าน
“เขาก็ทำกันแบบนี้แหละ พอเขาหันมาสบตากับเธอ เธอก็ส่งยิ้มที่มุมปาก แบบนี้ แล้วหลบสายตา” ลิซ่าทำท่าประกอบ
“มืด ๆ เมา ๆ กันทั้งนั้น ไม่มีใครสนหรอกว่าประเจิดประเจ้อหรอก เอ๊าลองดู” นีน่าเข้ากำกับทันที
“ถ้าเขาไม่หันมามองละ” ฉันถามด้วยความลังเล
“หน้าแหกน่ะซิ” มายาตอบ
“แหม ถ้าทั้งสวย และ ทั้งอ่อยขนาดนี้ไม่หันมอง เห็นทีเธอคงหมายตาพวกเก้งเข้าให้แล้วละซิ”
ลิซ่าทำหน้าเบะ
ฉันทำตามที่เพื่อนสาวแนะนำ หันไปส่งสายตาให้ทั้งหนุ่มหน้าเด็กเสื้อดำ และ พ่อนักขรึมเสื้อขาว ไม่นานก็ได้สัมผัสสายตากับพ่อหนุ่มเสื้อดำหน้าเด็ก ฉันยิ้มให้เบา ๆ แล้วรีบหลบสายตาเพราะความเขิน กลัวดูเสร่อ ส่วนพ่อหน้าขรึมนั้น ไม่ว่าจะมองจนแทบทะลุไปใต้เสื้อผ้า นายนั่นหาได้สังเกตุเห็นฉันไม่ ส่วนนายหน้าเด็กยิ้มรับทันที พร้อมกับยกแก้วเครื่องดื่มที่ถืออยู่ขึ้นเป็นทีว่าชนแก้ว
“ทำตามเลย” นีน่ารีบเข้ากำกับ ฉันยกแก้วแล้วส่งสายตากลับอมยิ้มที่มุมปาก แล้วรีบหันมาหาเพื่อนสาวขอคำปรึกษาต่อ
“ยังไงต่อดี แล้วนายหน้าขรึมนั่นละ” ฉันถามรุกรี้รุกรน
“ก็ทำซ้ำ ๆ ไป ไม่นานเขาน่าจะเดินเข้ามา ส่วนนายหน้าขรึมน่าจะไม่ได้ออกมาหาเหยื่อ ดูท่านิ่งไม่สนใจใคร” นีน่าบอกเกมส์ทันที
“เอาหนุ่มหน้าเด็กนี่แหละ ท่าทางจะติดกับแกแล้ว เป็นฉันนี่เดินเข้าไปชนแล้วแล้วละ ขี้เกียจรอท่ามาก” ลิซ่าพูดบ้าง
“เดินไปเลยหรือ” มายาอุทาน
“บ้าฉันไม่กล้าหรอก” ฉันเสริมทันควัน
“มันจะยากอะไร” ลิซ่าที่เล่นเกมส์สบตากับพ่อหนุ่มวัยกลางคนหนึ่งอยู่ซักพัก เดินนวยนาดคว้าแก้วเครื่องดื่มของเธอ ตรงไปหาเขาพร้อมกับยกแก้วขึ้นเป็นเชิงสัญลักษณ์ว่าชนแก้วกันเถอะ หนุ่มคนนั้นหาได้รังเกียจไม่ เขายิ้มอย่างยินดี ยกแก้วขึ้นมาชนกลับ และทั้งคู่ก็ยกขึ้นดื่ม และพูดคุยกัน
“ยัยลิซ่านี่มันไว จริง ๆ” มายาเหน็บ
“เดี๋ยวแกดูนะ มันจะหาทีแตะผู้ เป็นสัณญาณให้ผู้แตะตัวนางได้” สิ้นคำนีน่า ลิซ่าผู้กำลังสนทนาออกรสชาติกับพ่อหนุ่มคนนั้น ดูเหมือนพวกเขากำลังขำอะไรกันซักอย่าง ทันใดนั้นนังลิซ่าก็ใช้จังหวะขำขัน เอามือของนางปาดไปเกาะที่หัวไหล่พ่อหนุ่มคนนั้น และเอนตัวเข้าไปหาตามแรงหัวเราะของนาง
“นังลิซ่านี่ไม่ธรรมดา” มายาชมแบบประชดประชัน
ว่าแต่เธอรู้ได้ยังไง” ฉันถามต่อทันที
“ก็เพราะฉันก็ทำน่ะซิ ลิต้า” นีน่าหัวเราะ แล้วกันไปสังเกตุการณ์รอบ ๆ ก่อนจะพูดว่า
“พ่อหนุ่มหน้าเด็กของเธอมองกลับมา เธอมองกลับไปแล้วเอนหัวเบา ๆ ทำทีว่าชวนมาที่โต๊ะ” นีน่าทำท่าประกอบไม่ให้ดูประเจิดประเจ้อ
ฉันนึกตะขิดตะขวงใจ แต่ก็เอาหล่ะ ลองดูซักที ฉันทำตามที่นี่น่าบอกแต่โดยดี พ่อหนุ่มหน้าเด็กเดินเข้ามาหาอย่างว่าง่าย
“อุ๊ยตาย เขามาแล้ว” มายาอุทาน
“ฉันจะทำยังไง” ฉันพูดด้วยความตระหนก
“ทำทีสวยไว้ อย่าตะหนก” นีน่ากำชับ
“สวัสดีค่ะครับ”
พ่อหนุ่มหน้าเด็กเข้ามาระยะประชิด เขาดูดีกว่าที่เห็นจากระยะไกลมาก ดวงตาคมเข้ม ขนตางอน จนฉันอดอิจฉาไม่ได้
“ผมชื่อเดวิท คุณคือ?”
“สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ เรียกฉันว่าลิต้า”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” เขายกแก้วขึ้นมาชนกับฉันตามธรรมเนียมปฏิบัติในคลับบาร์
“นี่เพื่อนของฉัน” เดวิทยกแก้วขึ้นชน แล้วหันมาหาฉันพร้อมกับพูดว่า
“คุณอยากไปเต้นกับผมไหม” ฉันหันไปหาเพื่อนสาวเพื่อขอคำยืนยัน ทำทีว่าชวนเธอ
“เธอไปเต้นเลย ฉันเมื่อย” นีน่ารีบขับไล่ไสส่งพร้อมรอยยิ้มที่ดูมีเลศนัย ส่วนมายาส่ายหัวตอบพอเป็นพิธี
ฉันหันไปหาเดวิทแล้วพยักหน้ายิ้มรับ เขาวางเครื่องดื่มบนโต๊ะของพวกเรา และหันมาคว้าแก้วของฉันแล้ววางตามไป พร้อมกับโอบเอวฉันไปยังฟอร์เต้นรำ เราเต้นกันอย่างสนุกสนาน บทเพลงตื่นเต้นเร้าใจ ผู้คนเต็มฟอร์เต้นรำไปหมด ทำเอาร่างกายของเราเบียดชิดกันขณะเคลื่อนย้ายซะโพกซ้ายขวาไปมา เดวิทที่ดูเจนจัด โอบเอวฉันเข้าหาเขาจนฉันสัมผัสบางอย่างที่กำลังแข็งเต็มที่เสียดสีที่หน้าขาของฉัน ฉันรู้สึกเกิดอารมณ์ตามทันที แต่ก็ยังไม่วายนึกถึงพ่อหน้าขรึมที่ดูสงบนิ่งไม่ไหวติง เสมือนว่าฉันปรารถนาสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อย่างนั้น
ฉันกับเดวิทเต้นกันจนเหงื่อออกได้ที่ ฉันเริ่มรู้สึกเหนื่อยเลยขอตัวกลับไปที่โต๊ะ เดวิทเดินตามฉันไม่ห่าง เมื่อกลับมาที่โต๊ะพบกับลิซ่าที่หิ้วพ่อหนุ่มวัยกลางคนนั้นกลับมาที่โต๊ะเป็นที่เรียบร้อย
“เดวิท นี่เพื่อนของฉัน ลิซ่า” ลิซ่าแนะนำผู้ชายของเธอ เมื่อทุกคนรู้จักกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็ยกแก้วขึ้นชนกัน ฉันหันไปกระซิบกับนี่น่าว่าไปห้องน้ำเป็นเพื่อนหน่อย เพราะอยากจะปรึกษาอะไรซักหน่อย
“ฉันไปห้องน้ำสักครู่นะคะ” ฉันหันไปบอกเดวิท เดวิทพยักหน้าและหันไปหาพ่อหนุ่มวัยกลางคนและเร่ิมพูดคุยทำความรู้จักกัน
“เป็นยังไง ๆ” นีน่าไม่รอให้ลับหลังรีบถามทันที
“เฮ้อ ร้อนเป็นบ้า เดวิทนี่บุกฉันน่าดู เต้นเอาน้องชายมาสีฉันตลอด”
“โอ้ย เสียวตาม นายนี่ดูท่าจะไม่เบา แกชอบไหมละ”
“ก็ตื่นเต้นดีนะ แต่ฉันก็ยังติดใจพ่อหน้าขรึมคนนั้นอยู่เลย”
“อ่านะ แกก็เป็นซะแบบนี้นี่แหละ ชอบอะไรยาก ๆ”
“เออ สงสัยจะอย่างที่เธอว่า ฉันเลยไม่สมหวังซะที”
“ว่าแต่เพ่อหนุ่มหน้าละอ่อนที่แข็งรอเป็นชั่วโมงแล้วนี่ก็ดูดีใช่หยอก แก้ขัดไปได้เชื่อฉัน”
“ใจก็อยาก อีกใจก็กลัว ดูเขานะเชี่ยวชาญ”
“ผู้ชายพวกนี้ก็ประมาณนี้แหละ ถ้าแกไปกับมัน ส่งข้อความมาบอกฉันว่าอยู่ที่ไหน เผื่อแกหายไปไม่กลับมา ฉันจะได้แจ้งตำรวจ” คำกำชับของนีน่าทำเอาฉันนึกกลัว
พวกเราพากันเข้าห้องน้ำ เมื่อเสร็จกิจและกำลังจะเดินกลับไปที่โต๊ะ ฉันสังเกตุเห็นพ่อหนุ่มหน้าขรึมกำลังเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี
“นี่น่า เขาอยู่นี่ ข้างหลัง ๆ ” ฉันใช้สีข้างกระทุ้งนีน่าอย่างจัง พร้อมทั้งใช้สายตาบอกทิศทาง
นีน่าหันไปเห็นพ่อหนุ่มหน้าขรึมที่กำลังเดินออกมา และกำลังเข้าใกล้เราเข้ามาทุกขณะ แล้วจู่ ๆ ไม่รู้ด้วยเหตุอันใด นีน่าผลักฉันอยากแรงเข้าที่ข้างลำตัว ฉันที่ไม่ได้ตั้งตัวถึงกับเซซัดไปชนกับคนที่อยู่ใกล้ ๆ ฉันตกใจด้วยไม่ทันคาดคิด โชคยังดีที่เขาคนนี้รับตัวฉันเอาไว้ทัน
ฉันหันไปหาเขาผู้โชคร้าย และกล่าวขอโทษ
“ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ”
จังหวะนั้นเองหัวใจฉันแทบหยุดเต้นที่พบว่าคนที่รับฉันไว้ก็คือพ่อหนุ่มหน้าขรึมเสื้อขาวคนนั้นนั่นเอง
“ไม่เป็นไรครับ คุณเจ็บตรงไหนรึเปล่า”
“ไม่เท่าไหร่ค่ะ เจ็บตรงข้อเท้านิดหน่อย”
“นั่งก่อนเถอะครับ” เขาพยุงฉันไปนั่งที่เก้าอี้ใกล้ ๆ นั่นเอง ฉันหันมองซ้ายขวาหายัยนีน่าต้นเหตุ ก็ไม่เห็นเธออยู่ในระยะสายตาซะแล้ว ยัยนี่มันแผนร้ายมาก แต่ยังไงซะฉันก็ต้องขอบคุณหล่อน
“ขอบคุณค่ะ” ฉันกล่าว พร้อมจ้องเข้าไปนัยตาสีสว่างคู่นั้น ความรู้สึกอบอุ่นแผ่ซ่านเข้าไปในหัวใจ
“ผมชื่อ อลัน แล้วคุณคือ?”
“ลิต้าค่ะ”
เราพูดคุยกันอย่างถูกคอ เสมือนว่าเป็นดั่งเพื่อนเก่าที่รู้จักกันมานาน อลันนั้นเป็นักกีฬาฮ๊อกกี้น้ำแข็งมาจากประเทศแคนาดา มิน่าละนะเขาถึงมีรูปร่างใหญ่โต มาเที่ยวเมืองไทยและคืนนี้ก็เป็นคืนสุดท้ายก่อนเขาจะเดินทางกลับในวันรุ่งขึ้น ฉันแอบอดเสียดายไม่ได้
“ขอตัวแปปนะครับ คุณรอตรงนี้นะครับ”
“ค่ะ”
เขาหายไปซักครู่ เล่นเอาฉันอดใจหายไม่ได้ แต่ซักพักเขาก็กลับมาพร้อมเครื่องดื่มสองแก้ว สีแดงเหมือนน้ำมะเขือเทศพร้อมทั้งเซอเรอลี่ เสียบอยู่บนแก้ว
“สำหรับคุณครับ” อลันยื่นเครื่องดื่มในมือให้ฉันหนึ่งแก้ว และยกแก้วของเขาขึ้นชนกับฉัน
“ขอบคุณที่ล้มมาชนผมนะครับ” เขากล่าวทั้งขยับตาขณะยกเครื่องดื่มขึ้นดื่ม
“ด้วยความยินดีค่ะ” ฉันตอบทีเล่นทีจริง และยกเครื่องดื่มขึ้นจิบตาม
“อร่อยมากเลย รสชาติคล้ายน้ำมะเขือเทศ มีรสเผ็ดนิด ๆ คล้าย ๆ กับบลัดดี้แมรี่ แต่มันดูต่างออกไป” ฉันพยายามรับรู้รสสัมผัสและคาดคะเนสิ่งที่กำลังดื่ม
“ใช่แล้วครับคล้าย ๆ แต่แตกต่าง มันเรียกว่าซีซ่าร์ ส่วนประกอบที่เพิ่มมาจากบลัดดี้แมรี่ก็คือน้ำที่ได้จากหอย”
“น้ำจากหอยเหรอคะ” ฉันแอบกดอาการขำเอาไว้
“ใช่แล้วครับ ฟังดูตลกใช่ไหมครับ แต่นี่เป็นเครื่องดื่มประจำชาติแคนาดาเลยก็ว่าได้”
“ฉันพึ่งเคยได้ยินเครื่องดื่มประจำชาติก็ครั้งนี้เป็นครั้งแรก”
“เราจะดื่มกันในวันชาติของทุกปี ช่วงเดือนพฤษภาคมนี่แหละครับ”
ฉันยกแก้วขึ้นเป็นเชิงเฉลิมฉลอง “ว้าว ขอบคุณมากเลยนะคะ”
“ยินดีครับ ถือเป็นการฉลองที่เราได้พบกัน”
ฉันอมยิ้มกรุ้มกริ่ม มองสัมผัสเข้าไปในนัยตาของกันและกัน รู้สึกวาบหวิวในใจ แรงดึงดูดและฤกธิ์ของแอลกอฮอล์ดึงให้เราเข้ามาใกล้กันมากขึ้นเรื่อย ๆ จนฉันสามารถสัมผัสลมหายใจอุ่น ๆ ของเขา ปลายจมุกอันโด่งเรียวงามแตะเข้าเบา ๆ ที่ใบหน้าของฉัน ฉันหลับตาพริ้มพร้อมรับรอยจูบจากอลัน
“ลิต้า คุณอยู่ที่นี่ นี่เอง” ก่อนที่ริมฝีปากของเราจะสัมผัสกัน เสียงของเดวิททำเอาทั้งฉันและอลันสะดุ้งโหยง และผละออกจากกันโดยไม่ทันตั้งตัว
“เดวิท”
“ผมตามหาคุณแทบแย่”