ตอนที่ 43 กำแพงน้ำแข็ง
ลิต้าเจน เดอะ ซีรีส์ 1 หลงทางรักนครมายา
ตอนก่อนหน้าและตอนถัดไปรวมอยู่ในนี้ รวมทุกตอน
“ตกใจขนาดนั้นเลยหรือครับ” จอห์นถามด้วยน้ำเสียงมีความสุข สายตาที่เขามองมาที่ฉันไม่ต่างเลยกับเมื่อปีที่แล้ว เต็มไปด้วยความรักใคร่ จนแทบไม่มีอะไรให้ต้องลุ้นแม้แต่น้อย
“ค่ะ”
“ผมยืนด้วยคนนะครับ” เขาพูดพร้อมทั้งเข้ามาใกล้ โดยที่ฉันไม่ทันได้ตอบ ฉันอึกอักไม่แน่ใจแต่ไหน ๆ แล้วก็ถือว่าได้เพื่อนคุยแล้วกัน
“คุณมาเที่ยวกับแฟนหรือครับ” จอห์นแอบถามกลาย ๆ
“เปล่าคะ” ฉันตอบทั้งชี้ไปที่โต๊ะข้างในที่นีน่านั่งกระหนุงหระหนิงกับผู้ชายของเธอ “เพื่อนอยู่ทางนั้นคะ”
“ผมดีใจมากที่ได้เจอลิต้า อีกครั้ง คุณสบายดีไหม”
“ก็โอเคค่ะ” ฉันตอบไปอย่างนั้น ถึงแม้จะไม่ค่อยสบายดีเท่าไหร่
“แปลกนะครับ มันผ่านมาตั้งปีนึงแล้ว แต่ผมยังนึกถึงคุณเสมอ” จอห์นผู้ไม่เคยมีมาด ตั้งการ์ด พูดทุกสิ่งที่เขาคิด ฉันที่ไม่เคยหันมามองเขา จ้องมองดูเขาด้วยความสงสัย ว่าเหตุอันใดหน่อเขาถึงชอบฉันมากมายขนาดนั้น และเหตุอันใดกัน ฉันถึงไม่มีใจ เยื้อใยให้เขา หรือฉันมันพวกชอบความเจ็บปวด
พาลให้นึกย้อนไปเมื่อซักปีก่อน นี่ถ้าฉันไม่ตัดรักจอห์นชีวิตตอนนี้จะเป็นอย่างไรหน่อ ยังจำได้ดีวันนั้นฉันสวมชุดสีชมพูหวาน แต่งหน้าแต่งตาอย่างปราณีต ไม่ใช่เพราะตื่นเต้นที่จะได้ไปออกเดทกับพ่อหนุ่มจอห์นหรอกนะ แต่ตื่นเต้นที่จะได้ไปทานอาหารหรู ฉันได้ยินมานักต่อนักแล้ว ว่า ณ ยอดตึกนั้นเสริฟอาหารชั้นดี ราคาไม่ต้องพูดถึง ขนาดเครื่องดื่มซักแก้วจ่ายแบงค์พันทอนมาพอให้ทิปเท่านั้นเอง
ฉันยังจำได้ดีอาหารฝรั่งเศสชั้นเลิศพร้อมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาอันตระการตา อาหารนั้นถูกจัดออกมาเสริฟตั้งแต่ออเดริฟ เป็นอะไรก็ฟังไม่ถนัด แต่น่ารักจิ้มลิ้มยังกับยกสวนญี่ปุ่นขนาดกระทัดรัดมาจัดลงในจาน จะกินก็เสียดายเสียนี่กะไร ควรจะต้องลงไปเดินเล่นเสียก่อน แถมออเดริฟไม่ได้มาเพียงหนึ่ง แต่จัดไปถึงสาม ตอนนั้นฉันรู้เสียที่ไหน สามจานผ่านไปฉันก็เริ่มจะอิ่ม จานถัดมาเหมือนของหวานอารมณ์น้ำแข็งใสสามสี หวานอมเปรี้ยว สดชื่นมาก ฉันนึกว่าเป็นของหวานเสียอีก เชฟบอกว่าจานนี้คือจานเรียกความสดชื่น เพื่อให้ต่อมรับรสพร้อมรับอาหารจานหลัก ฉันถึงกับเบิกตาโพลง นี่นึกว่าทานมื้อหลักไปแล้วเสียอีก งานนี้จะไหวไหมนี่ฉัน แต่พอทานขนมเรียกความสดชื่นตัดกับอาหารคาวที่ทานไปก่อนหน้านี้ เหมือนได้พักครึ่งดื่มน้ำก่อนลงแข่งขันต่อ มาเลยจัดหนักมา ฉันฟาดไม่มีเหลือ เรียกได้ว่าค่ำคืนนั้นฉันนี่ได้ใช้ชีวิตอย่างเหลือกินเหลือใช้อย่างแท้จริง คิดแล้วก็อดเสียดายไม่ได้ที่ชีวิตไม่รักดี คนดีไม่ชอบ กลับทอดทิ้งเขาเสียได้
“ลิต้า ฉันจะกลับห้องแล้วนะ” นีน่าสะกิดฉันที่กำลังเหม่อลอยไปในโลกแห่งความทรงจำ
“อะจ๊ะ” ฉันขานรับไม่ทันสังเกตุเห็นนีน่าและแฟนของหล่อนที่เดินมาใกล้
“เธอจะกลับพร้อมกันไหม เดี๋ยวมืดจะอันตราย” นีน่าแนะนำ
“เดี๋ยวผมไปส่งเองครับ” จอห์นรีบรับทันใด ฉันไม่ทันได้ตัดสินใจ
“ขอบคุณมากนะคะ” นีน่าหันไปตอบจอห์น และหันมาหาฉันและกระซิบกระซาบทำเสียงเล็กเสียงน้อยว่า “ขอให้สนุกนะจ๊ะ”
“เฮ้ย” ฉันยังไม่ทันได้พูด นีน่าก็เดินสบัดอิงแอบแฟนของนางไปลิ่วแล้ว
“ไปเต้นด้วยกันหน่อยไหมครับ” จอห์นถาม
“ก็ได้ค่ะ”
เราโยกกันไปมา ฉันเองไม่ค่อยจะมีอารมณ์เต้นเสียเท่าไหร่ จอห์นพยายามชวนฉันคุยนั่นนี่ ในหัวฉันมีแต่คำถามว่าทำไมฉันถึงมองข้ามเขาขนาดนี้ แม้แต่ในเวลานี้ฉันเองก็ยังไม่สามารถพิศวาสเขาได้ เขาก็ไม่ได้มีอะไรบกพร่อง หน้าตาอาจจะไม่หล่อลากดิน แต่ดูดีไม่อายใคร การงานก็มี ใจปล้ำแถมยังชอบฉันเสียมากมาย ในขณะที่โยกไปคิดไปนั้น ได้มีชะนีคนหนึ่งและเก้งอีกหนึ่งคนเข้ามาเต้นใกล้ ๆ
“แก ฉันชอบคนนี้” ชะนีนางนั้นหันไปกระซิบกระซาบกับเพื่อนเก้งของนาง ทำสายตาชี้มาทางจอห์น
“เอาเลยแก เต้นแซะเข้าไป” เก้งที่มาด้วยกันส่งท้ายเพื่อนชะนี
ฉันได้ยินทุกบทสนทนาเพราะลานเต้นรำนั้นไม่ได้ใหญ่อะไร เพลงก็ไม่ได้ดังมาก แต่จอห์นคงไม่รู้เรื่องเพราะพวกหล่อนพูดกันเป็นภาษาไทย และพวกนางก็คงไม่ได้สังเกตุเห็นฉันที่อยู่กับจอห์น เพราะฉันเองพยายามไม่แสดงความสนิทสนมกับจอห์นมากจนเกินไป เกรงว่าจะทำให้เขาเข้าใจผิดไปกันใหญ่
ไม่ทันขาดขำ นางชะนีน้อยหน้าตาน่ารักจิ้มริ้ม ผมยาวปะบ่า สูงขาวอกตูม ก็เต้นเบียดชิดทำเสมือนบังเอิญมาชนจอห์นแบบไม่ได้ตั้งใจ ประหลาดก็ตรงที่ลานเต้นนั้นออกจะโล่ง เพราะเป็นลานเปิดกลางแจ้ง
ฉันเห็นทุกเหตุการณ์แต่ไม่ได้กล่าวหรือแสดงกิริยาใด แอบนึกสนุกลุ้นดูมารยาของนางผู้นี้ ดูซิว่าจะเป็นเช่นไรต่อไป
“ขอโทษค่ะ” นางหันมาสบตาหวานหว่านเสน่ห์ให้จอห์นยกใหญ่ แล้วจึงเต้นต่อไป จอห์นขยับออกจากนางเข้ามาทางฉัน แต่ไม่วายนางคงต้องใช้ที่มากในการเต้น นางเบียดเอาหลังมาไสไถ อย่างกับบอกใบ้ให้จอห์นรู้ว่า ฉันอยู่ตรงนี้นะ ถูฉันกลับซิจ๊ะ
ฉันนึกขำเพราะนางไม่ได้เห็นฉันอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย มองไปมา นางสวยดูดีมาก ฉันสงสัยว่านางติดใจอะไรจอห์น มีอะไรที่ฉันหลงลืมดูหรือไม่ และฉันก็แอบคิดไม่ได้ตามประสบการณ์ที่ได้เจอมา คงไม่มีผู้ชายคนไหน เจออ่อยขนาดนี้แล้วปล่อยให้หลุดมือง่าย ๆ จอห์นก็คงไม่ต่างกัน
นางชะนีน้อยบุกหนักขึ้น ฉันคิดว่าจอห์นเองในเวลานี้ก็คงจะรู้ตัว ฉันรอดูท่าทีแอบหวั่นใจ ว่าจอห์นอาจจะทิ้งฉันไปกับนางก็เป็นได้ ยิ่งฉันดูเย็นชาไม่ได้เอาง่าย ๆ อย่างนางคนนี้ แถมยังหักอกเขาอย่างไม่ไว้หน้าเมื่อปีที่แล้ว
ในวินาทีนั้น จอห์นทำส่ิงที่ไม่เหมือนผู้ชายคนไหนที่ฉันเจอ เขาถือวิสาสะคว้ามือของฉันมาจับไว้ และดึงฉันเข้าไปใกล้เขา เพื่อแสดงให้ชะนีนางน้อยนั้นรู้ว่าเขาไม่สนใจและไม่มีเยื้อใยต่อเธอแม้แต่น้อย
พวกหล่อนผงะ เมื่อหันมาสบตาฉัน
“แกเขามากับผู้หญิง” นังเก้งกระซิบกระซาบ แล้วในทันใดพวกนางก็รีบแว๊บหายไป หรือจะกลัวว่าจะเจอชะนีรุ่นพี่อย่างฉันตบสั่งสอน ฉันสัมผัสความรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชนะ และรู้สึกพึงพอใจ
การกระทำของจอห์นนั้นผิดความคาดหมายของฉันอย่างที่สุด ฉันไม่ได้ขัดขืน ในนาทีนั้นฉันรู้สึกอบอุ่น และปลอดภัย เหมือนกำแพงน้ำแข็งหนา ๆ ที่ฉันสร้างเพื่อป้องกันไม่ให้จอห์นเข้ามาใกล้นั้นได้ค่อย ๆ ละลายลง ฉันมองเขาด้วยสายตาใหม่ หรือเขาจะเป็นคนดีจริง ๆ ฉันควรเปิดโอกาสซักครั้ง ฉันคิดในใจ
คืนนั้นจอห์นเดินมาส่งฉันที่ห้อง โดยที่ไม่ได้ล่วงเกินอะไร ไม่แม้แต่จะพยายามมอบรอยจูบให้ฉัน ฉันรู้สึกปลอดภัยแบบที่ไม่เคยรู้สึกมานาน อาจจะมีจอห์นกระมังที่มองเห็นฉันมากกว่าเพียงเรือนร่าง
หัวใจที่เคยปิดสนิทเริ่มแง้มออกเล็กน้อย
วันรุ่งขึ้นขณะที่กำลังนั่งทานอาหารเช้ากันนั้น ฉันเล่าเหตุการณทั้งหมดให้นีน่าฟัง
“ลิต้า แกน่าจะลองคบเขาดูนะ เขาออกจะจริงใจกับแก”
“ไม่รู้ซิ ถึงเขาเป็นคนดี แต่ทำไมหัวใจฉันไม่เต้นตูมตาม”
“แหม แกเรื่องแบบนี้มันต้องใช้เวลา อย่างคู่ฉันเนี้ย ก็ไม่ได้ปิ้งกันตั้งแต่แรกพบ แต่ความดีของเขาเอาชนะใจฉันได้” นีน่าหว่านล้อม
“ความดี หรือ กระเป๋าตังค์” ฉันแอบแขวะ
“แหม แก มันก็เหมือน ๆ กันนั่นแหละ” นีน่าพูดพร้อมทั้งค้อนฉันให้ “ความรักมันกินได้ที่ไหน”
“ฉันล้อเล่นน่า”
พูดยังไม่ทันขาดคำ นีน่าตบหลังฉันฉาดใหญ่แล้วถามด้วยความตื่นเต้น
“เฮ้ย แก นั่นจอห์นรึเปล่า”