ตอนที่ 46 ความสัมพันธ์ระยะยาว (18+)
ลิต้าเจน เดอะ ซีรีส์ 1 หลงทางรักนครมายา
Image by Alexander Belyaev from Pixabay
ตอนก่อนหน้าและตอนถัดไปรวมอยู่ในนี้ รวมทุกตอน
ฉันเดินตามจอห์นที่จุงมือฉันไปอีกทาง
“อาบน้ำก่อนเถอะครับ” เขายื่นเสื้อคลุมอาบน้ำให้ฉัน
“ขอบคุณค่ะ” ฉันรับเอามา เข้าไปอาบน้ำพลางคิดไปว่า คืนนี้จะยังไงดี หรือจะลองตาจอห์นดูซักตั้ง ฉันอาจจะนึกชอบเขาก็เป็นได้
หลังจากอาบน้ำเสร็จ ฉันล้มตัวลงนอนตัวเกร็งโดยมีจอห์นนอนอยู่ข้าง ๆ
“ผมกอดคุณได้ไหม” จอห์นถามขึ้นในความเงียบ
ฉันที่ยังรู้สึกสับสนในความรู้สึกของตัวเอง แต่ในเวลานี้ก็เหมือนอ้อยเข้าปากช้างเสียแล้ว เอาวะลองดูซักที ทำอย่างกับไม่เคยเสียตัวอย่างนั้น เมื่อคิดได้ดังนั้น ฉันจึงตอบไป
“ค่ะ”
จอห์นขยับเข้ามาใกล้ และดึงฉันเข้ามาอิงอุ่นจากกายเขา สัมผัสนั้นอบอุ่นเหมือนอ้อมอกของผู้ใหญ่ไม่ได้สร้างความวาบหวามเหมือนปกติที่ฉันได้ใกล้ชิดบรรดาพวกผู้ชายอกสามศอกทั่วไป
“ผมจูบคุณได้ไหม” จอห์นถามขึ้นอีกครั้ง
เอาแล้วซินั่นไง ฉันช่างใจอยู่พักนึง และตัดสินใจว่าต้องลองดูซักที ให้มันรู้ ๆ กันไปว่าความรู้สึกของฉันและจอห์นจะพัฒนาไปได้หรือไม่
“ค่ะ”
เขายกตัวขึ้นคล่อมตัวของฉันและก้มลงจูบ สัมผัสนั้นอ่อนโยน ฉันไม่ได้รู้สึกหัวใจเต้นตูมตามเหมือนที่เคย แต่ก็ไม่ได้นึกรังเกียจอะไร
เมื่อได้กอด เมื่อได้จูบ มือของเขาก็เริ่มรุกเร้า สัมผัสไปทั่ว ฉันขยับตัวรับ อณุญาติให้เขาปลุกเร้าอารมณ์ของฉัน จนเครื่องฉันเริ่มร้อนได้ที่
อารมณ์ที่เริ่มพลุ่งพร่านเสมือนได้ไปปลุกความทรงจำอันรันทด ภาพของบรรดาผู้ชายที่หวังเพียงตัวฉันก็บรรดาผุดขึ้น เสมือนว่าพวกเขาได้ทิ้งตราบาปไว้บนเรือนร่าง ในขณะที่จอห์นไซค์ลงที่ซอกคอ ภาพของชายหลากหน้าที่เคยได้สัมผัสพรากเอาความสาว ทิ้งไว้เพียงความดูแคลน น้ำตาอุ่น ๆ ผุดขึ้นที่สองตา
จอห์นเงื้อมมือสอดเข้าใต้เสื้อคลุมที่ฉันสวมอยู่ ทาบมือลงยังหัวใจของฉัน สัมผัสเข้าที่อกอันอวบอูม รอยสัมผัสนั้นกระตุ้นความทรงจำส่วนลึกที่แม้ฉันพยายามจะลืมซักเพียงใด มันกลับเป็นดั่งฝันร้ายที่ย้อนกลับมาหลอกหลอน อยู่เช่นเดิม หัวใจดวงอ่อน ๆ ได้จดจำภาพวันคืนที่ราคะของชายแปลกหน้าได้ฉโลมโลมเลีย เคล้าคลึงที่ยอดอกคู่นั้น นานับครั้งไม่ถ้วน ทำนบน้ำตาที่ฉันกดกลั้นเอาไว้ ได้แตกคลืน ฉันสะอื้นไห้ออกมาโดยมิได้ตั้งใจ
เสียงสะอื้นทำเอาจอห์นถึงกับผงะ
“ลิต้า คุณเป็นอะไร ผมขอโทษ” จอห์นหยุดโลมเร้าและเข้าสวมกอดทั้งเขย่าตัวฉันไปมา
นั่นยิ่งทำให้น้ำตากลับพลั้งพรู ความเจ็บปวดที่ได้เก็บอยู่ข้างใน ถูกชำระล้างด้วยหยาดน้ำที่ไหลดั่งไม่มีวันหยุด ฉันร้องไห้ตัวโยนอยู่ในอ้อมกอดนั้น โดยจอห์นไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่าสาเหตุแห่งการร้องไห้นี้ หาได้เกี่ยวข้องกับเขาไม่ แต่มันคือฉันเองที่คิดผิด หลงทาง มัวเมาไปกับคาวรักชั่วข้ามคืนจนดวงใจและจิตวิณญาณของฉันชอกช้ำเกินทนรับไหว
ฉันร้องไห้อยู่อย่างนั้นจนเผลอหลับไป เช้าวันใหม่ย่างกรายเข้ามา ฉันลืมตาตื่นมาเห็นจอห์นที่จ้องมองฉันอย่างเป็นกังวล เหมือนคนไม่ได้หลับไม่ได้นอนอย่างนั้น หัวใจของฉันที่ได้ผ่านความผิดหวังมานับครั้งไม่ถ้วน ยอมแต่โดยดีรับความรักที่จอห์นหยิบยื่นมาให้ ถึงแม้ฉันเองจะยังไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเองมากนัก แต่ฉันรู้สึกเหนื่อยนักกับการเดินลำพังบนเส้นทางนี้อย่างเดียวดาย จอห์นเปรียบเสมือนดั่งที่พักใจ เขารักฉัน แล้วฉันยังต้องการอะไรอีกหรือ สุภาษิตโบราณที่เขาว่า รักคนที่เขารักเราดีกว่า เห็นจะมีความจริงซ่อนอยู่ ฉันได้แต่หวังว่าความรู้สึกที่ฉันมีให้จอห์นคงค่อย ๆ พัฒนาไปตามช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน
นับจากวันนั้นมา ฉันและจอห์นก็ได้เริ่มความสัมพันธ์ระยะยาว เขาไม่เคยทำให้ฉันกังวลใจ เช้า สาย บ่าย เย็น เขารายงานความเป็นไป ความสัมพันธ์ราบเรียบและเรียบง่าย ฉันรู้จักสังคมของเขาเป็นอย่างดี บรรดาเพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงาน เขาชัดเจนในความสัมพันธ์และออกจะลุ่มหลงฉันเอามาก ๆ
ไม่นานหลังจากนั้น ฉันย้ายมาอยู่ด้วยกันที่คอนโดของเขาใจกลางเมือง ดั่งกับคู่สามีภรรยาก็ไม่ปาน เราเดินทางท่องเที่ยวไปด้วยกันหลายที่ และในที่สุดก็เดินทางไปพบครอบครัวของเขาที่ประเทศแคนาดา ได้พบพ่อแม่พี่ชายและน้องชายของเขา เป็นครอบครัวน่ารักและอบอุ่น ทุกคนรักใคร่และให้การต้อนรับฉันเป็นอย่างดี ฉันมีความสุข สงบในใจ
ความสัมพันธ์พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว เราตัดสินใจซื้อบ้านร่วมกัน โดยต่างรู้ว่านั่นคือเรือนหอของเรา รอเพียงวันที่ตบแต่งสมบูรณ์ ฉันก็รู้แน่ว่าเขาคงจะขุกเข่าขอฉันแต่งงานในที่สุด ในเวลานั้นฉันคิดกับตัวเองว่า นี่แหละคงคือชีวิตของฉัน อาจจะไม่วาบหวาม แต่ไม่ต้องทุกข์ทน และฉันควรพึงพอใจ
แต่ลึก ๆ ลงไปข้างในฉันปรารถนาความรู้สึกรักอันลึกซึ้งดั่งเช่นที่ฉันเคยรู้สึกกับกวินทร์ซักครั้ง แต่ชีวิตฉันคงต้องคำสาปให้รักคนที่เขาไม่รักเรากระมัง
เวลาเลยผ่านและบ้านกำหนดการเสร็จของบ้านของเราก็ใกล้เข้ามาทุกขณะ ใจหนึ่งฉันอยากให้บ้านเสร็จเสียที แต่อีกใจแอบหวั่นลึก ๆ เพราะชีวิตของฉันจะไม่มีทางหวนกลับอีกแล้ว ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ฉันได้เริ่มทำธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพและความงามกับเพื่อนที่ทำงานกลุ่มหนึ่งด้วยหวังว่าวันหนึ่งฉันจะได้เป็นเจ้านายตัวเอง และบอกลาชีวิตพนังงานที่ถึงแม้จะรายได้ดี แต่ขาดซึ่งอิสระ ในเวลานั้นฉันต้องทุ่มเทอย่างมาก ไหนจะต้องทำงานนอกเวลาคู่ไปกับงานประจำ แต่ฉันก็มีความสุข ฉันได้รู้จักผู้คนมากหน้าหลายตา ความคิดอ่านกว้างไกลขึ้น แต่ในทางตรงกันข้ามฉันเริ่มมีปากเสียงกับจอห์นบ่อยครั้งขึ้น เขาไม่ชอบให้ฉันกลับบ้านช้า และ ไม่ชอบธุรกิจที่ฉันทำ เขาว่ามันเหมือนดั่งงานขายฝัน ทัศนะคติทางด้านธุรกิจของเราขัดแย้ง จริง ๆ แล้วต้องบอกว่าเขาไม่ชอบงานธุรกิจด้วยซ้ำ เขาไม่ชอบความเสี่ยง เขามีความสุขกับการทำงานกับเด็ก ๆ ได้รับรายได้ที่แน่นอน วันหนึ่งได้ใช้เวลาไปกับครอบครัว ต่างจากฉันที่ชอบความท้าทาย รักความก้าวหน้า และไม่กลัวที่จะล้ม อาจเพราะฉันล้มมานักต่อนักในเกมส์ของความรัก ดังนั้นความสัมพันธ์ของเราในช่วงหลังจึงเต็มไปด้วยความขัดแย้ง ทำให้ฉันนึกกังวลนักหนาว่าเราคือคู่ชีวิตกันจริงหรือ
เมื่อถึงช่วงวันหยุดระยะยาวของโรงเรียนที่จอห์นมักจะกลับไปเยี่ยมครอบครัวที่แคนาดาทุกปี ฉันปฏิเสธที่จะไปกับเขา อ้างว่าอยากทำงานทุ่มเทให้กับธุรกิจที่ฉันกำลังสร้าง แต่อีกใจหนึ่งฉันเองเริ่มลังเลสงสัยในความสัมพันธ์ระหว่างฉันและจอห์น และจะมีประโยชน์อะไรในการไปเยี่ยมครอบครัวของเขาที่อาจจะไม่ได้กลายมาเป็นครอบครัวของฉันก็เป็นได้