ตอนที่ 47 การเริ่มต้นใหม่
ลิต้าเจน เดอะ ซีรีส์ 1 หลงทางรักนครมายา
ตอนก่อนหน้าและตอนถัดไปรวมอยู่ในนี้ รวมทุกตอน
การได้อยู่ด้วยตัวเองอีกครั้งโดยไม่มีจอห์นเคียงข้างนั้น ทำให้ฉันรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง และเข้าใจความปรารถนาของตัวเองมากขึ้น ฉันหาได้คิดถึงเขาไม่และกลับไม่อยากให้ถึงวันที่เขากลับมา ฉันรู้แน่ชัดแล้วว่า คงถึงเวลาต้องยุติความสัมพันธ์นี้ ฉันไม่รู้อนาคตจะเป็นอย่างไร และนี่อาจเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด แต่ฉันทนอยู่โดยมีความสุขแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ ไม่ได้ คงต้องไปลองตายเอาดาบหน้า และคงไม่ใช่ใครที่ฉันอยากจะบอกเรื่องนี้ให้รู้ถ้าไม่ใช่ มายา ลิซ่า และ นีน่า
“โอ้ย ฉันแทบไม่ได้เห็นหน้าแกเลย ตั้งแต่แกได้กับตาจอห์น” นีน่าทักทายแกมหยอกล้อ
“แหม ๆ พอ ๆ กันนั่นแหละเธอจ๋า เธอก็บินไปกลับสิงคโปร์เป็นว่าเล่น” มายาย้อน
“เอาเป็นว่าฉันก็อยู่นี่แล้วไง” ฉันตอบ
“พอ ๆ ฉันตะหากที่ต้องตัดพ้อ ทั้งแก้งเราเหลือฉันคนเดียวไม่มีใครออกไปเที่ยวเล่นด้วยเหมือนเคย” ลิซ่าได้ทีย้อนกลับพวกเราทุกคน
พวกเรารุมกันสวมกอดนาง “นี่ไง เราจะไปซิ่งกันรำลึกความหลัง ครั้งยังเปรี้ยว” ฉันตอบ
“เอาหล่ะมาเมากันให้สุดสวิงริงโก้ไปเลย” นีน่าสมทบ ว่าแล้วเธอก็โบกมือเรียกเด็กเสริฟ
“น้อง ๆ จัดอะไรก็ได้ แรง ๆ มาให้เจ้หน่อย” นีน่าทำท่าอาซ้อสั่ง
ไม่นานเด็กเสริฟนำเตกิล่าช๊อตมาเสริฟ พวกเรายกกระดกตามด้วยมะนาวและเกลือที่แนบมาด้วย ฉันคิดถึงบรรยากาศแบบนี้จริง ๆ พลางรำลึกความหลังซึ่งก็เมื่อไม่นานมานี้นี่เอง ถึงความเผ็ดเข็ดฟันของพวกเรา
“พวกแกฉันมีอะไรจะบอก” ฉันพูดขึ้น
“อะไร” ทุกคนหันมองฉันที่มีทีท่าจริงจัง ตาไม่กระพริบ
“ฉันจะเลิกกับจอห์น” ฉันตอบ
“ไม่ได้ล้อเล่นหรอก” มายาผู้รู้ทุกอย่างก่อนใคร ๆ ตอบแทนฉันทันที
“เฮ้ย แกล้อพวกเราเล่นใช่ไหม” นีน่าอุทานตามด้วยลิซ่าที่ประหลาดใจไม่แพ้กัน
“พวกแกออกจะดูมีความสุขกันดี มันอะไรยังไง”
“มันก็ไม่ได้สุขอย่างที่พวกแกเห็นหรอก” มายาแถลงไข
“ฉันมันไม่รักดีละมั้ง ชีวิตก็สงบสุขดี แต่มันเหมือนขาด ๆ อะไรไป” ฉันตอบ
“หรือว่าแกมีคนอื่น” ลิซ่าผู้คุ้นชินกับเรื่องทำนองนี้คาดเดาขึ้นทันที
“ฉันไม่ได้มีใครทั้งนั้น ไม่รู้ซิฉันอาจจะไม่เคยรักเขาเลยจริง ๆ อย่างที่เขารักฉัน พวกแกก็รู้ว่าเขาน่ะ ไม่ใช่ผู้ชายแบบที่ฉันชอบ แต่ฉันอยู่กับเขาก็เพราะความดีของเขา” ฉันอธิบาย
“สุดท้ายความดีอย่างเดียวมันไม่พอ” มายาเสริม
“แกไม่มีความสุขเหรอ” ลิซ่าถามต่อ
“ฉันไม่รู้ มันก็ไม่ได้ทุกข์อะไร แต่ฉันปรารถนาความรู้สึกที่ลึกซึ้งกว่านี้”
“แล้วบ้านที่พวกแกซื้อด้วยกันละ” นีน่าทัดทานขึ้นทันที
“นั่นแหละทำให้ฉันลำบากใจ”
“มันก็คงมีทางออกเองแหละ” มายาปลอบ
“เอาเถอะแก ทำตามแต่ที่ใจแกต้องการ พวกเราอยู่ข้างแกตลอด” นีน่าให้กำลังใจ
“ขอบใจ”
“แล้วแกจะบอกเขาเมื่อไหร่” นีน่าถามต่อ
“ก็คงตอนที่เขากลับมา”
“ความรักนี่มันยากหนักหนา” ลิซ่ารำพัน
“มาดื่มให้กับการเริ่มต้นใหม่ของแก ลิต้า รอบนี้ฉันเลี้ยงเอง” ลิซ่ากล่าวพร้อมทั้งส่งสัณญาณมือให้กับเด็กเสริฟคนเดิม”
“เอาแรง ๆ เหมือนเดิมไหมพี่” เด็กเสริฟถาม
“นั่นแหละจัดมา” ฉันตอบ
ฉันรู้สึกทั้งใจหายและตื่นเต้น ว่าชีวิตความเป็นโสดที่ไม่มีคนรักเคียงข้างกำลังจะเริ่มต้นอีกครั้ง แต่อย่างไรฉันก็รู้สึกสำนึกขอบคุณความรักจากจอห์นที่ได้มอบชีวิตและการเยียวยาบาดแผลทางใจ ด้วยความรักจากเขาทำให้ฉันสามารถลุกขึ้นมาใช้ชีวิตเป็นผู้เป็นคน กอบกู้ความรู้สึกไร้ค่า เป็นดั่งผู้หญิงคนหนึ่งที่มีคนรักเทิดทูนบูชา แต่ฉันเองคงทำบุญกับเขามาเพียงเท่านี้
ในเวลานั้นฉันไม่เข้าใจหรอกว่าอะไรที่ดลใจให้ฉันหนีที่อันปลอดภัยและไปออกพจญภัยครั้งใหม่ในสนามแห่งความรัก ทุกวันนี้เมื่อฉันมองกลับไปฉันจึงได้เข้าใจว่าการตัดสินใจครั้งนั้นสำคัญกับฉันถึงเพียงไหน ชาติปางก่อนฉันอาจได้อธิฐานจิต ที่จะเรียนรู้ความรักให้ลึกซึ้งมากไปกว่านี้ และ การหยุดอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยไม่ใช่สิ่งที่จิตได้ตั้งไว้ก่อนมาเกิดในชาตินี้ เอาหล่ะเดี๋ยวเธอจะได้เข้าใจเมื่อฉันเล่าในตอนต่อ ๆ ไป
คืนนั้นพวกเราสนุกสุดสวิงริงโก้ ยิ่งตอกย้ำความรู้สึกต้องการเป็นอิสระโบยบินตามหาความรักอีกครั้งหนึ่ง ฉันปล่อยตัวเองให้เมาในแบบที่จำความอะไรแทบไม่ได้ รู้เพียงว่ามีชายหนุ่มผู้หนึ่งที่ฉันยังเอิญสบสายตาด้วยอย่างไม่ได้ตั้งใจ นางตามฉันแจ นับแต่สายตาเราจ้องเจอกัน ฉันที่ในเวลานั้นยังไม่ได้โสดอย่างสนิทดี จึงไม่คิดจะสานต่อความสัมพันธ์ใด ๆ เมื่อดึกเข้าฤทธิ์สุราที่ดื่มเริ่มออกฤกธิ์ ฉันจึงขอตัวกลับ พ่อหนุ่มคนนั้นตามฉันมาติด ๆ ขอเบอร์เพื่อติดต่อฉัน ฉันไม่ได้ติดใจอะไร แต่เพราะเจียรจะอ๊วกอยู่เต็มทน จึงรีบให้ตัดความรำคานไป และรีบก้าวขึ้นแท๊กซี่ เป้าหมายคือไปตายเอาที่บ้าน
ตื่นขึ้นมากับอาการแฮงค์โอเวอร์อย่างแรง จำอะไรไม่ได้เท่าไหร่ รู้แต่เพียงสนุกมากเพียงใด จำไม่ได้แม้แต่พ่อหนุ่มที่ฉันได้ให้เบอร์เขาไป ฉันเหลือบไปเห็นข้อความที่เขาทักมา จึงเริ่มจะปะติดปะต่อเรื่องราวเมื่อคืนก่อนได้
ฉันเองไม่ได้สนใจใยดีจะตอบเขาซักเท่าไหร่ เพราะในเวลานั้นถึงแม้จะตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตโสดอีกครั้ง ก็ยังไม่ได้บอกจอห์นดี เลยไม่อยากจะมีเยื่อใยให้ใคร อีกทั้งฉันจำอะไรกับพ่อหนุ่มคนนี้ไม่ได้ซักอย่าง หน้าตาฉันก็พอจำได้คร่าว ๆ เหมือนเขาจะสูง ผมสีเข้ม หน้าตาไม่น่าเท่าไหร่ มาจากประเทศอังกฤษ
“ตานี่ก็แปลก พอฉันไม่ค่อยสนเขาก็ทักทายมาจัง พยายามเรียกร้องความสนใจ ชวนคุยนั่นนี่ ฉันยิ่งขี้เกรงใจ ฉันไม่น่าให้เบอร์เขาไปเลย หรือฉันจะตัดสัมพันธ์ไปเลย สิ้นเรื่อง” ฉันพร่ำบ่น
“ทำไมเธอไม่ชอบเขาละ”
“มันก็ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันจำเขายังไม่ได้เลย ฉันเมาแทบบ้าวันนั้น เขานัดพบฉันหลายทีแล้ว ฉันไม่รู้จะเลี่ยงด้วยเหตุผลอะไรแล้ว”
“งั้นเธอก็ไปเจอเขาซิ จะได้รู้เรื่องรู้ราวไป”
“ทำอย่างนั้นก็เหมือนกับนอกใจจอห์นน่ะซิ”
“แล้วยังไง”
“ไม่รู้ซิ”
“ก็ไปเจอแบบเพื่อนก็ได้นี่ ถ้าเธอไม่ชอบก็จะได้ตัด ๆ ไปเลย” มายาแนะ
…
ฉันตัดสินใจพบเขาในที่สุด เพื่อตัดความสงสัย และ ความรำคาณ วันนั้นรถติดมากเป็นพิเศษเล่นเอาฉันมาสายเป็นชั่วโมง แต่เขาก็ยังอุตส่าห์รอ ฉันรู้สึกผิดเอามาก ๆ
กะว่าจะมาปฏิเสธเขาแท้ ๆ แต่พ่อเจ้าพระคุณรุณช่องแม่เจ้าเอ้ย พอเห็นหน้าเขาครั้งแรกตอนที่ฉันมีสติดีเท่านั้นเองเชียว สเป๊กมาก ๆ หล่อเหล่างานดี นัยตาคม มาดเท่อย่างคนเอาการเอางาน อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ฉันแอบคิดกับตัวเอง ยัยลิต้า เธอเกือบชวดของดีเข้าแล้วไหมละ
“สวัสดีค่ะ ลิต้าค่ะ คุณคือ ดีแลนท์ใช่ไหมคะ?” ฉันแนะนำตัวดั่งกับไม่เคยเจอกันมาก่อน แต่สำหรับฉัน ฉันรู้สึกเช่นนั้นจริง ๆ “ขอโทษที่ให้รอนานนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมดีใจที่เราได้เจอกันอีก” ดีแลนท์พูด
เมื่อได้พูดคุยกัน แลกเปลี่ยนทัศนะคติ ฉันยิ่งลุ่มหลงเขาเป็นการใหญ่ พ่อหนุ่มพูดน้อย นัยตาซึ้ง ดีกรีถึงระดับทนายความ ทำงานให้กับสถานฑูตอังกฤษ เดทแรกที่ตั้งใจไปปฏิเสธกลับเติมความหมายให้กับการมีชีวิตของฉัน ความรู้สึกแบบนี้นี่เองที่ฉันคิดถึง ความรู้สึกที่ลึกซึ้งที่สัมผัสลึกลงไปถึงจิตวิณญาณ ความรู้สึกที่ย้ำเตือนให้ฉันรู้ว่า ฉันยังมีชีวิตอยู่
เราทั้งสองต่างรู้สึกสัมผัสถึงความผูกพันธ์ที่เกิดขึ้นอย่างทันทีทันใด เหมือนมีแรงดึงดูดอันมหาศาล ความรู้สึกนี้ที่ครั้งหนึ่งเคยเกิดขึ้นกับฉันและกวินทร์ ฉันดีใจอย่างมากที่มันยังไม่ตายไป ยังมีคนที่ทำให้หัวใจของฉันเต้นเป็นจังหวะเดียวกันนี้ได้
ปัญหาก็คือฉันยังมีจอห์นอยู่ทั้งคน จอห์นเป็นคนดี และ สิ่งสุดท้ายที่ฉันจะทำนั่นคือการทรยศเขา ฉันพยายามถ่วงเวลาไม่แสดงออกความรู้สึกดีแลนท์ วางตัวอย่างเพื่อนไปก่อนถึงแม้ภายในใจนั้นอยากจะกระโจนเข้าใส่ และรวมถึงการบ่ายเบี่ยงไม่ไปเจอเขาด้วยเช่นกัน เพราะกลัวว่าจะทำให้เรื่องมันเลยเถิดไปกว่านี้ เวลานั้นฉันได้แต่รอ รอให้จอห์นกลับมาเสียที