ทริปท่องเที่ยวฉลองครบรอบ 5 ปี
สวัสดีค่ะ กลับมาแล้วจากทริปฉลองครบรอบ 5 ปี กับท่านชายสายสมร จริง ๆ ก็ไปเที่ยวเฉย ๆ นี่แหละคะ เรียกให้โก้เก๋ว่าทริปฉลองครบรอบ เพราะเราไปเที่ยวกันบ่อยจนบางทีฉันก็ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตารอโอกาสอะไรที่จะฉลองซักเท่าไหร่ เรียกว่าประสบการณ์หนึ่งของชีวิตเสียมากกว่า ส่วนข้อมูลเรื่องท่องเที่ยวคงหวังอะไรจากฉันมากไม่ค่อยได้เท่าไหร่ แค่จำชื่อเมืองได้ก็เก่งแล้ว
ทริปนี้เป็นทริปเล็ก ๆ และ สั้น ๆ แค่สองคืนเท่านั้นเอง วันแรกเราไป La Rochelle เป็นเมืองน่ารัก ๆ ริมชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส บรรยากาศน่ารักมากสำหรับการเดินเล่น อากาศก็อุ่นขึ้นบ้างแล้ว ถึงแม้ลมจะแรงซักหน่อย แต่แสงแดดดี๊ดี ขนาดว่าฉันต้องร้องอยากทานไอศรีมกันเลยทีเดียว
เราเดินเล่นผ่านเมืองเก่าต่าง ๆ ตึกอะไรคืออะไรบ้างฉันก็ไม่รู้หรอก ฉันก็ถ่ายรูปของฉันไปเรื่อย รู้แต่ว่าคนเต็มไปหมด คนที่นี่เขาไม่กลัวโควิดกันเลยทั้ง ๆ ที่เคสแต่ละวันก็ไม่ใช่น้อย พวกเราพยายามทิ้งระยะห่างจากทุกคนสุดพลัง
ภาพบรรยากาศเมือง La Rochelle
ตกเย็นเราแวะซื้ออาหารและเครื่องดื่มก่อนเข้าที่พักติดทะเล โรงแรมตกแต่งแนวทะเล น่ารักมาก เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่ฉันสามารถถอดเลคกิ้งแล้วไม่หนาว ผิวที่สัมผัสอากาศโดยตรง ทำให้ฉันรู้สึกดีมาก ๆ เรื่องธรรมดา ๆ แค่นี้ที่เป็นปกติของชีวิตเมื่ออยู่อีกโซกโลกหนึ่งที่อากาศร้อนเหมือนเตาอบกลับทำให้รู้สึกพิเศษอย่างประหลาดเมื่ออยู่อีกซีกโลกหนึ่ง
หลังจากนั้นเราก็ทำอาหาร และ ทานอาหาร อ่านไม่ผิดเลยค่ะ ทำอาหาร สิ่งหนึ่งที่ฉันว่าออกจะแปลกซักหน่อย คือ พวกเรามักทำอาหารทานเองถึงแม้จะเดินทางก็ตาม ฉันมีอุปกรณ์ทำครัวเล็ก ๆ สำหรับพกพาเรียกว่าไปไหนไปกัน ไม่อดตาย
ก่อนหน้านี้เวลาพวกเราเดินทาง เราก็ทานตามร้านอาหารนี่แหละคะ แต่เมื่อช่วงต้นปี 2020 ตอนโควิดยังไม่กระจายตัวขนาดนี้ พวกเราเดินทางไปออสเตรเลียเป็นเวลาสามเดือน ก่อนเดินทางหนึ่งคืน ฉันเกิดมีนิมิตหรืออะไรก็ไม่ทราบได้ บอกให้ฉันต้องไปซื้อกระทะไฟฟ้าแบบพกพาไปด้วย เช้าวันรุ่งขึ้นตื่นมา ฉันตรงดิ่งไปห้างใกล้บ้านจัดมาหนึ่งเซ็ท โดยคุณชายเธอไม่รู้เรื่องหรอก และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการทำอาหารในโรงแรมขณะท่องเที่ยว
ต้องบอกว่าช่วยชีวิตพวกเราได้มาก ๆ เพราะบ่อยครั้งที่มันไม่ง่ายเลยที่จะหาร้านอาหารทานในที่ใหม่ ๆ ที่เราไป โดยเฉพาะระดับความยากในการวางใจในร้านอาหารของท่านชายด้วยแล้ว บางครั้งฉันถึงกับอ่อนใจ อยากจะเอาขามาก่ายหน้าผาก และนี่ก็เป็นเหตุผลนึงที่ฉันเรียกเธอว่าท่านชาย เป็นเชิงประชดประชันในความมากยากเรื่องเยอะในการกิน ขอถอนหายใจแปป เธอไม่วุ่นวายเรื่องรสชาติเลย ไม่ต้องปรุงอะไรเลย เธอก็ทานได้ บอกว่าอร่อยด้วย แต่เธอเลือกเยอะว่าวัตถุดิบมาจากไหน สะอาดรึเปล่า ออแกนิกหรือไม่ เวลาเดินเลือกร้านอาหารที ทำเอาหิวกลายเป็นโมโหได้เลยทีเดียว สำหรับฉันรึคุณภาพก็สำคัญ แต่ถ้าไม่มีจะกิน ขอกินกันตายก่อน ส่วนเธอรึ ถ้าให้เธอกินอาหารฟาสฟู๊ด เธอยอมอดตาย เชื่อไหมละ อย่าให้พูดเรื่องนี้อีกยาว คนอะไร ทุกอย่างต้องปอกเปือก มะเขือเอย ซอสเซสเอย ชีสเอย ปอกเปือกทุกอย่าง ครั้งหนึ่งฉันจะซื้อแรดดิชลูกเล็ก ๆ แดง ๆ ขนาดเท่าลูกลำใยน่ะ เธอว่า อันนี้ท่าทางจะปอกเปือกยาก ฉันหันค้อนทันที เป็นตายร้ายดี ฉันจะไม่ปอกเปือกแรดดิชเด็ดขาด มันจะเหลืออะไรให้กิน ลองคิดดู อันนี้ก็แกล้ง ๆ จิก ๆ เธอเล่น ๆ สนุก ๆ ยังไงฉันก็รักเธอ และก็ปอกเปือกให้ทุกอย่าง ยกเว้นแรดดิช อิอิ
เอาหล่ะ ด้วยความยากนั้น เลยเป็นที่มาของการทำอาหารระหว่างเดินทาง ซึ่งตอนนี้ก็ต้องบอกว่าช่วยได้มาก ๆ เพราะโควิดระบาดขนาดนี้ ร้านอาหารต่างปิดหมด เราทำอาหารทานเองได้ ทั้งยังลดความเสี่ยงในการรับเชื่อด้วยในตัว ฉันในตอนแรกที่เจอครัวเล็ก ๆ แบบมินิฉบับกระเป๋านี้ งก ๆ เงิ่น ๆ มาก มาวันนี้ก็เร่ิมคล่องแคล้ว ปรับตัวใช้ทุกอย่างให้เกิดประโยชน์ในที่สุด เพิ่มรสชาติให้กับการเดินทาง และท่านชายเองก็มีความสุข สบายใจ
เอาภาพโรงแรมและครัวมินิมาให้ดูค่ะ
เอาเป็นว่าวันนี้เท่านี้ก่อนนะคะ จบกันแบบดื้อ ๆ แบบนี้เลยเหรอ ค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาเล่าต่อนะคะ
ตอน 2 เกาะ ile de ré มาแล้วจ้า
รัก
ลิต้าเจน